กบข.ผลักดันกฎหมายใหม่ 5 ประเด็นสำคัญให้มีผลบังคับใช้แล้ว หวังเพิ่มโอกาสทวีค่าเงินออมให้แก่สมาชิก พร้อมพัฒนาระบบหลังบ้านควบคู่กัน เพื่อให้สมาชิกใช้บริการได้ทันที
ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2566 โดยได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อทวีค่าเงินออมให้แก่สมาชิกทั้งหมด 5 ประเด็น สรุปสาระสำคัญการแก้ไขกฎหมายฉบับใหม่ ดังนี้
1. สมาชิก กบข.สามารถออมเพิ่มได้สูงสุด 27% ของเงินเดือน เมื่อรวมกับเงินสะสม 3% จะสามารถออมกับ กบข.ได้สูงสุดถึง 30% จากเดิมที่ออมเพิ่มได้สูงสุดเพียง 12% เท่านั้น
2. เมื่อสมาชิกเลือกหรือเปลี่ยนแผนการลงทุน จะมีผลต่อเงินทุกประเภทในบัญชีรายบุคคล ประกอบด้วย เงินสะสม เงินออมเพิ่ม (ถ้ามี) เงินสมทบ เงินชดเชย และเงินประเดิม (ถ้ามี) จากเดิม เงินประเดิม (ถ้ามี) และเงินชดเชย จะถูกกำหนดให้ลงทุนในแผนหลัก สมาชิกจะไม่สามารถเลือกแผนการลงทุนได้
3. สมาชิก กบข.ที่บรรจุใหม่ หากไม่ใช้สิทธิเลือกแผนการลงทุน กบข.จะกำหนดแผนการลงทุนเริ่มแรกเป็นแผนสมดุลตามอายุ จากเดิมสมาชิกบรรจุใหม่จะถูกกำหนดให้อยู่ในแผนหลัก ซึ่งใน 3 ประเด็นนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
4. สมาชิก กบข.สามารถโอนย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาให้ กบข.บริหารได้ และ 5. ผู้ออมต่อกับ กบข.สามารถเลือกเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ จากเดิมถูกกำหนดให้ลงทุนในแผนเดิมก่อนออกจากราชการ ใน 2 ประเด็นนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อคณะกรรมการ กบข.ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดแล้ว
ดร.ศรีกัญญากล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ กบข.ดำเนินการภายใต้ความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาชิกจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการเพิ่มโอกาสทวีค่าเงินออมกับ กบข. จึงได้บรรจุการทำงานแก้ไขกฎหมายไว้ในแผนยุทธศาสตร์ กบข. พร้อมทั้งผลักดันให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด และในระหว่างที่รอกฎหมายมีผลบังคับใช้นั้น กบข.ได้พัฒนาระบบหลังบ้านควบคู่กันไป เพื่อเตรียมความพร้อมให้สมาชิกสามารถใช้บริการได้ทันทีเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กบข. หรือ LINE กบข. @gpfcommunity หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร. 1179