xs
xsm
sm
md
lg

MFCโชว์ไพรเวทฟันด์แตะ3หมื่นล้าน ชี้ท่องเที่ยว-ศก.โตหนุนหุ้นไทยมีโอกาส1800

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.เอ็มเอฟซี มั่นใจปีนี้โตกว่าอุตสาหกรรม โชว์ไพรเวทฟันด์โตกระโดดจาก 1.8หมื่นล้านเป็น3หมื่นล้าน ระบุหุ้นไทยปีนี้ปัจจัยบวกอื้อ ท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจโตดัชนีอยู่ในกรอบ 1770-1800จุด

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนยังคงเข้าลงทุนกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนส่วนบุคคลที่่มีอัตราการเติบโตระดับสูงในข่วง3ปีที่ผ่านมาจากเดิมอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทมาอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทเชื่อว่าในปีนี้บริษัทเชื่อว่าสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร(AUM)จะเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งจะมาจากเม็ดเงินลงทุนไหมและมูลค่าสินทรัพย์การลงทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับการออกกองทุนของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะเน้นกองทุนที่เป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนมากขึ้นหลังจากในช่วงที่ผ่านมามีการออกกองทุนไปกว่า 50 กองทุน โดยการลงทุนที่บริษัทแนะนำในปีนี้จะเป็นการลงทุนในหุ้นเอเชียโดยเฉพาะจีน และการลงทุนในพลังงานสะอาด นอกจากนี้การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้งหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เข้าใกล้จุดสูงสุด

“เราน่าจะโตกว่าอุตสาหกรรม และเราได้มีการขยายงานเพื่อให้เข้าถึงนักลงทุนมากขึ้นจากการพัฒนาแอพพลิเคชัน รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่ตัวแทนขายและเซลล์ลิงค์เอเจนท์ให้สามารถช่วยสื่อสารกับลูกค้าได้ด้วยข้อมูลที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับตัวแทนอิสระเข้ามาเพิ่มเพื่อการขยายงานทำให้ปีนี้เราน่าจะเติบโตได้ดี”

นายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็มเอฟซี กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ประมาณ3.7%และอานิสงส์ของการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นจากการเปิดประเทศของจีน โดยดัชนีหุ้นไทยน่าจอยู่ที่ประมาณ 1770-1800จุด ส่วนกรอบล่างอยู่ที่ 1580 จุด

“ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจเราขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจากจีนที่น่าจะส่งผลต่อเนื่องถึงการบินโภคภายในประเทศให้กลับมาดีขึ้นอีก โดยหุ้นกลุ่มบริโภคเป็นกลุ่มที่น่าสนใจในปีนี้เช่น BIGC CPALL เป็นต้น ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์ก็น่าจะกลับเข้าลงทุนได้อีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และเชื่อว่าจะมีผลประกอบการดีขึ้นต่อจากนี้”

นอกจากการเติบโตของเศรษฐกิจแล้วการเลือกตั้งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยการใช้จ่ายในช่วงนี้จะมาช่วยกระตุ้นการบริโภคได้ อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาด้วยว่ารัฐบาลที่ได้จะมีเสียงข้างมากและสเถียรภาพหรือไม่

ขณะที่ฟันด์โฟลว์ในปีนี้คาดว่าจะยังคงไหลเข้าลงทุนในตลาดไทยต่อเนื่องจากปีที่แล้วแต่เม็ดเงินอาจจะไม่ถึง2แสนล้านบาทเท่ากับในปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ยังมีตลาดในภูมิภาคเดียวกับไทยที่ราคามีความน่าสนกว่าเช่น จีน และเวียดนาม ซึ่งหุ้นไทยราคาจะอยู่ในระดับกลางๆ โดยมี forward P/E ที่ 16.25 เท่า

นายชาคริตกล่าวอีกว่า ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจะต้องจับตาอัตราดอกเบี้ยของเฟดและ การถดถอยของเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯและยุโรปที่จะกระทบกับหุ่นไทยในระยะสั้น นอกจากนี้ประเด็นของสงครามที่จะกระทบต่อราคาน้ำมันหากความขัดแย้งกลับมารุนแรงมากขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น