xs
xsm
sm
md
lg

MFC เชื่อหุ้นไทยน่าลงทุนไปถึงปีหน้า หลังยอดนักท่องเที่ยวโตหนุนเศรษฐกิจฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.เอ็มเอฟซีเชื่อหุ้นไทยน่าสนใจลงทุนตั้งแต่ปีนี้ถึงปีหน้า รับนักท่องเที่ยวเพิ่ม เศรษฐกิจฟื้น หนุนหุ้นไทยสิ้นปีดัชนี 1,700 ส่วนปีหน้าปัจจัยบวกดีขึ้นหลังปีนี้ต้องเจอข่าวร้ายตั้งแต่ต้นปี แนะหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวและเปิดประเทศเป็นหลัก ส่วนต่างประเทศหุ้นเอเชีย-สหรัฐฯ เริ่มน่าสนใจ

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าหุ้นไทยยังคงน่าสนใจ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติเป็นหลัก และจะเห็นได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วมีการปรับตัวและส่งผลให้ราคาหุ้นสะท้อนไปมากแล้ว ขณะที่หุ้นไทยยังปรับตัวได้ช้ากว่าก็น่าจะเห็นแนวโน้มของหุ้นไทยที่มีโอกาสปรับตัวมากขึ้น โดยหลักเลยอาจจะมาจากหลายบริษัทของไทยมีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวด้วยแต่แนวโน้มต่อจากนี้เมื่อการท่องเที่ยวกลับมาหุ้นไทยก็ดูน่าสนใจมากขึ้น

"จริงๆ แล้วแนะนำให้นักลงทุนหันมามองหุ้นไทยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและนักท่องเที่ยวเป็นอะไรที่ค่อนข้างดีขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาก็ใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจเราฟื้นตัว และราคาหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นมาได้เป็นโอกาสที่ดีอยู่ในการลงทุนหุ้นไทยทั้งในปลายปีนี้และปีหน้า โดยเราคาดว่าดัชนีหุ้นไทยช่วงปลายปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,700 จุด อีกส่วนคือปีหน้าน่าจะมีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจะทำให้ปัจจัยบวกต่อหุ้นไทยในปีหน้า แต่สิ่งที่กังวลคือจีนว่าจะมีการเปิดประเทศได้เร็วขนาดไหนเพราะเรามีการพึ่งพาท่องเที่ยวและส่งออกไปจีน อีกส่วนจะเป็นปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน ตรงนี้จะเป็นปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงได้ เรื่องของค่าเงินก็ต้องมองว่าส่วนต่างดอกเบี้ยจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนไปกว่านี้หรือไม่ ตรงนี้ก็จะเป็นประเด็นได้จากต้นทุนของราคาน้ำมันและสินค้านำเข้าอื่นๆ ด้วย"

นอกจากนี้ ในส่วนของความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจโลกถดถอยเชื่อว่าอาจเกิดขึ้นแต่คงไม่ใช่การถดถอยที่รุนแรง ซึ่งความจริงทางเทคนิคเกิดขึ้นแล้วด้วยซ้ำกับการที่จีดีพีติดลบ 2 ไตรมาส แต่คิดว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศเริ่มกลับมาคิดแล้วว่าสิ่งที่เคยทำอาจจะเร่งปิดตัวเงินเฟ้อ แต่ถ้าต้องเผชิญกับเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงก็อาจมีการชะลอขึ้นดอกเบี้ยไปหรือมีมาตรการอื่นๆ เข้ามารองรับ จึงคาดว่าเศรษฐกิจถดถอยในรอบนี้จึงไม่รุนแรงนัก แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคบ้างแต่คงไม่รุนแรงมากนัก

ส่วนหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจต่อจากนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยว เช่น โรงพยาบาล หรือธุรกิจอะไรที่ได้ประโยชน์จากรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ซึ่ง บลจ.เอ็มเอฟซีเองมีความเชื่อมั่นในการคัดเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนอยู่แล้วถึงแม้ภาพรวมของดัชนีหุ้นไทยจะไม่ไปไหน อย่างไรก็ตาม ปีหน้าเชื่อว่าภาพรวมของหุ้นไทยน่าจะมีปัจจัยบวกมากขึ้นทั้งการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยว การลงทุน การเลือกตั้ง ซึ่งต่างจากปีนี้ที่เจอแต่ปัจจัยลบตั้งแต่ต้นปี โดยเพิ่งจะเริ่มข่าวดีเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังและประเทศไทยถือว่ายังมีช่องว่างที่จะฟื้นตัวได้อีกหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

นายธนโชติกล่าวอีกว่า นอกจากหุ้นไทยและหุ้นเอเชียแล้ว หุ้นในสหรัฐฯ ก็เริ่มกลับมาน่าสนใจแต่จะต้องเลือกเป็นรายตัวด้วยว่ามีรายได้ที่มาจากอะไร แต่โดยรวมแล้วราคามาถึงจุดที่น่าสนใจ และมีโอกาสที่ราคาปรับตัวขึ้นเช่นกัน ซึ่งหุ้นที่น่าสนใจอาจจะเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่ามีรายได้จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชัดเจน แต่บางบริษัทก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แท้จริง เพราะในช่วงโควิดเท่านั้นที่ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกจำกัดโดยหุ้นลักษณะนี้จะต้องระมัดระวังจากรายได้ที่ไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
กำลังโหลดความคิดเห็น