กองทรัสต์ทรัพย์ศรีไทย ยื่นไฟลิ่งเพิ่มทุน 190 ล้านคาดแล้วเสร็จพร้อมเสนอขายภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ ดันมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนแตะ 1.7 พันล้านบาท พร้อมยิลด์เพิ่มอีกเล็กน้อย มั่นใจธุรกิจคลังเอกสารยังสดใส ภาครัฐ-เอกชนยังต้องใช้ต้นฉบับจริงของเอกสารบ้างประเภทเพื่อประโยชน์ของการตรวจสอบ และอ้างอิงทางกฎหมาย
นายเอกชัย ลิ้มศิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย (SSTRT) เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย (SSTRT) ประเภท Freehold 100% ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในการขอเพิ่มทุนครั้งที่ 1 มูลค่ารวมไม่เกิน 190 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกองทุนจะเข้าลงทุนเพิ่มในที่ดินจำนวน 1 โฉนด เนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน 68.9 ตารางวา ซึ่งเป็นอาคารคลังเอกสาร 4 หลัง พื้นที่รวม 7,000 ตารางเมตร
ทั้งนี้คาดว่ากองทุนจะได้รับการอนุมัติเพิ่มทุนและทำการเปิดขายหน่วยลงทุนได้ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1จะมีจำนวนทั้งสิ้น 36.53 ล้านหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ที่กองทุนเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 18 อาคารจากเดิม 14 อาคาร และส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,700 ล้านบาทจากเดิมอยู่ที่ 1,549 ล้านบาท
"ขนาดของกองทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นในรอบนี้ก็น่าจะทำให้ผลตอบแทนรวมขยับขึ้นเล็กน้อย แต่เดิมที่เคยจ่าย 7% ต่อปี ซึ่งเราจะแบ่งจ่ายเป็น 2 รอบ ครั้งละประมาณ 0.20 บาทต่อหน่วยหรือ 0.4 บาทต่อปี ซึ่งรอบนี้รวมแล้วน่าจะจ่ายได้ที่ประมาณ 0.41 บาทต่อหน่วยและเมื่อเทียบกับราคนาปัจจุบันที่ 5.55 บาทผลตอบแทนที่ได้ถือว่าสูงเกือบ 8% เลยทีเดียว
นายเอกชัย กล่าวอีกว่า กองทุนนี้ถือว่าน่าสนใจและเป็นทางเลือกในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน นักลงทุนจึงมองหาสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อย กองทรัสต์ SSTRT เป็นFreehold 100% ทำให้สามารถสร้างกำไรให้กับกองทุนและนำมาจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กองทุนยังมีแผนเพิ่มทรัพย์คลังเอกสารเข้ากองเพิ่มเติมในอนาคต โดยสินทรัพย์ของทรัพย์ศรีไทยที่มีโอกาสเข้าลงทุนจะเป็นอาคารคลังสินค้าอยู่ 4 หลังแต่ยังติดสัญญาเช่าอยู่และในอนาคตอาจนำเข้ามาอยู่ในกองทุนได้ ส่วนจะเป็นการขยายการลงทุนไปประเภทสินทรัพย์อื่นด้วยหรือไม่คงต้องดูก่อนเพราะถ้าจะขยายการลงทุนไปสินทรัพย์ที่เป็นคลังสินค้าจะต้องมีการแก้วัตถุประสงค์การลงทุนก่อน
นอกจากนี้กองทุนยังมีรายได้จากค่าเช่าที่การันตีโดยทรัพย์ศรีไทยที่จะทำการจ่ายให้กองทุนเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งทำให้มั่นใจได้อีกว่าจะมีรายได้เข้ามากองทุนอย่างต่อเนื่อง โดยการบริหารงานของทรัพย์ศรีไทยเองก็มีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 400-450 ล้านบาทอยู่แล้วแและถ้ารวมแนวโน้มการขึ้นค่าเช่าและบริการหลังการขายด้วยจะทำให้บริษัทรัพย์ศรีไทยสามารถจ่ายค่าเช่าได้ตามที่การันตีไว้
ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมการให้บริการคลังเอกสารเชื่อว่า การให้บริการคลังเอกสารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ ภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นและอ้างอิงทางเอกสารหลักฐานเชิงข้อมูลทางธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบเอกสารของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้แม้ว่าในปัจจุบันบริษัทหลายแห่งเลือกเก็บเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในประเทศไทยยังคงมีข้อบังคับทางกฎหมาย กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องเก็บเอกสารไว้ เพื่อตรวจสอบหรืออ้างอิงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยเฉพาะสถาบันทางการเงิน ซึ่งกำหนดให้มีการจัดเก็บเอกสารบางประเภทในรูปแบบต้นฉบับกระดาษ อาทิ เอกสารทางบัญชี เอกสารทางการเงิน เอกสารนิติกรรมต่างๆ และเอกสารอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางกฎหมายและภาษีอากรเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ กำกับดูแล และสืบค้นตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรักษาเอกสารอย่างน้อย 5-10 ปี หรือเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัทก่อนที่จะถึงช่วงที่กำหนดทำลายเอกสาร
