นายมอค สวี เม้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอร่า จำกัด (“AIAM”) เปิดเผยว่า บลจ.ไอร่าได้ประกอบธุรกิจจัดการกองทุนหลังจากที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล และการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยให้บริการการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) บริการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (Selling Agent) การบริหารการลงทุน Private Wealth Management และ Private Banking กับลูกค้าคนพิเศษทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้ารายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้การออกแบบการลงทุนที่ตอบโจทย์และวัตถุประสงค์ของลูกค้าโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่มีประสบการณ์เพื่อออกแบบพอร์ตการลงทุนโดยเฉพาะ
นายมอคกล่าวว่า ธุรกิจการจัดการกองทุนและการบริหารการลงทุนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ถ้าลูกค้าได้รับการดูแลเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บลจ.ไอร่าตั้งเป้าในระยะ 2 ปีจะเพิ่มมูลค่า Wealth Management จากประมาณ 1,500 ล้านบาท ไปที่ 10,000 ล้านบาท โดยเริ่มจากกลุ่ม High Net worth ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและต้องการหาคนมาบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
สำหรับการขยายตลาดในประเทศระยะแรกนั้น บริษัทจะขับเคลื่อนกลุ่มลูกค้า High Net Worth โดยมีแผนกลยุทธ์ที่จะเพิ่ม Structure Note เข้ามาเป็นสินค้าทางเลือกในการลงทุนให้แก่ลูกค้า ซึ่ง บลจ.ไอร่าจะมีจุดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นทั้งในเรื่องของความเป็นอิสระในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ความคล่องตัวในการจัดการระบบภายใน เนื่องจากลักษณะองค์กรเป็นแบบ Flat รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของสัญญาในการจัดการกองทุนก็สามารถทำได้หลากหลาย รวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งทำได้อย่างเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า
ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศนั้น นอกจากจะมาจากกลุ่มลูกค้า High Net Worth ที่มีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพื่อหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มผลตอบแทนที่ดีแล้ว บลจ.ไอร่าจะใช้ข้อได้เปรียบของการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินชั้นนำในต่างประเทศเพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย โดยเริ่มจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นผ่านการเป็นพันธมิตรกับธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ หรือ SMTB ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งในการให้บริการ Wealth Management ที่ครอบคลุมการลงทุนมากยิ่งขึ้น
“การมี SMTB เข้ามาเป็น Partner ทำให้เรามีช่องทางในการเข้าถึงสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นจากทางญี่ปุ่น และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าของ SMTB เข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยได้ด้วย”
นอกจากนี้ บลจ.ไอร่าจะแสวงหาพันธมิตรใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยการเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูง เพื่อปูทางในการก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการด้าน Private Wealth Management และ Private Banking ในระยะต่อไป
สำหรับภาพรวมการลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอร่ากล่าวว่า บริษัทยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของค่าเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ควบคู่กับแสวงหาโอกาสการลงทุน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนทางเลือกใหม่ๆ ให้กลุ่มลูกค้านักลงทุนทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ในการสร้างโอกาสเติบโตด้านบริหารจัดการลงทุนได้อย่างรวดเร็วภายใต้ผลตอบแทนที่มั่นคง