xs
xsm
sm
md
lg

"อลิอันซ์" แบรนด์ระดับโลก จากสงครามโลกถึงโควิดพิสูจน์ความแกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เราเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งทางด้านการเงินและอยู่ในธุรกิจประกันมากว่า 100 ปี เราเป็นผู้รับประกันเรือไททานิค และผ่านสงครามโลกมา 2 ครั้ง เหตุการณ์ 911 และล่าสุดกับเหตุการณ์โควิด-19 ซึ่งอลิอันซ์ยังคงมั่นคงแข็งแกร่ง"

ธุรกิจประกันภัยถูกทดสอบจากวิกฤตโควิด-19 สะเทือนความเชื่อมั่นของคนไทยที่มีต่อการทำประกัน หลายคน(ที่สุจริต)ตกเป็นผู้เสียหายไม่ได้รับความคุ้มครองตามสัญญา

ต่อจากนี้ธุรกิจประกันภัยคงมีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์และฟื้นความเชื่อมั่นกลับมา
มีความเห็นและแนวทางมากมาย แต่ซีอีโอระดับโลกของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กลับมีความเห็นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

ลาร์ส ไฮบุทสกี กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุยด้วยท่าทีสบายๆ แม้ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารยุคดิจิทัลถึงเรื่องนี้ว่า "จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา แม้ อลิอันซ์ อยุธยา เองจะไม่ได้ตกอยู่ในเหตุการณ์ที่กระทบถึงความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งของบริษัท แต่หากมองภาพรวมแล้ว **ภาคธุรกิจประกันภัยมีภารกิจที่จะต้องเรียกความเชื่อมั่นที่ถูกทำลายในพริบตาให้กลับมา และการทำตามสัญญาคือสิ่งที่จำเป็น**

อัศวินที่ยึดมั่นในคำปฏิญาณ จุดยืนสำคัญในการดำเนินงานของอลิอันซ์ อยุธยา ที่ลาร์สสื่อออกมา และไม่ใช่แค่อลิอันซ์ อยุธยา แต่ต้องเป็นทุกคนในธุรกิจต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะใช้เวลานานกว่าเดิมหรือไม่

ลาร์สเล่าต่อว่า ความจริงแล้วการทำตามสัญญาถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่อลิอันซ์ยึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งจริงๆ แล้วอลิอันซ์ อยุธยา ในประเทศไทยมีจุดยืนหลักอยู่อีก 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1. ความแข็งแกร่งของบริษัท 2. การเป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ และ 3. การเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรม

**"เรื่องแรกคือเราเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มีเงินสำรองกองทุนในระดับสูงเสมอมา และอยู่ในธุรกิจมากว่า 100 ปี เราเป็นผู้รับประกันเรือไททานิค และผ่านสงครามโลกมา 2 ครั้ง เหตุการณ์ 911 และล่าสุดกับเหตุการณ์โควิด-19 ซึ่งอลิอันซ์ยังคงมั่นคงแข็งแกร่ง จุดนี้เองที่ลูกค้ามองหาถ้าเขาจะต้องฝากชีวิตไว้กับประกันก็น่าจะเลือกอลิอันซ์ 2. เราจะมองว่าเป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ซึ่งถ้าวัดจากแบรนด์ระดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 3 ปีน่าจะเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดี 3. การเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรม และเทคโนโลยี"**
 
ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมอลิอันซ์ถึงยั่งยืนแข็งแกร่งตามสไตล์บริษัทข้ามชาติยุโรป เพราะนอกจากทั้ง 2 ข้อแรกแล้ว อลิอันซ์ อยุธยา ยังไม่หวั่นที่จะก้าวไปพร้อม "นวัตกรรม" เพื่อต่อสู้กับการ Disruption ในยุคดิจิทัลที่ผุดขึ้นในทุกธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน

ลาร์สบอกว่า การเข้ามาของฟินเทคฯ และอินชัวร์เทคฯ ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งกลุ่มนี้จะเน้นเรื่องประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุด และราคาที่ต่ำลง โดยการเข้ามาของกลุ่มนี้ทำให้เกิดนวัตกรรมและการแข่งขันที่เป็นประโยชน์ให้ทุกคนในธุรกิจต้องยกระดับตัวเองขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่เร็วที่สุดเหมือนที่กลุ่มนี้ทำได้ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มธุรกิจประกันภัยรถยนต์ต้องมีการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การบริการต้องมีความอัตโนมัติที่สะดวกที่สุด ซึ่งอลิอันซ์ อยุธยา มีโปรเจกต์ที่กำลังพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อความสะดวกในการบริการว่าจะทำอย่างไรให้อลิอันซ์ อยุธยา สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มเหล่านี้

"นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเป็นเหมือนพัฒนาการที่มีการขึ้นลงมาตลอดตั้งแต่ยุค 90 แต่ไม่ว่ามันจะขึ้นลงอย่างไรอลิอันซ์อยู่ในธุรกิจนี้มามากกว่า 120 ปี เรามีความเชี่ยวชาญ เรามีความแข็งแกร่ง และองค์ความรู้ที่จะฝ่าฟันช่วงขึ้นลงต่างๆ มาได้ ตรงนี้คือความแข็งแกร่งของเรา"
**โอกาสของอลิอันซ์ อยุธยา กำลังมา**
ถึงตรงนี้ผมอยากรู้ต่อว่า นอกจากแนวคิดและคำสัญญาแล้ว ลาร์สจะทำอย่างไรกับการแข่งขันที่ดุดันมากขึ้นในวงการประกันภัยของประเทศไทย เพราะลำพังจุดยืนคงไม่เพียงพอจะให้คนไทยแห่มาเป็นลูกค้า
 
ลาร์สบอกว่า ตอนนี้เป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นและเกิดความท้าทายมากขึ้นในธุรกิจ แต่ก็ยังเป็นโอกาสของอลิอันซ์ อยุธยา ที่จะเติบโตในประเทศไทย เพราะคนไทยจะหันมามองแบรนด์ระดับโลกที่แข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากโควิดและการ Disruption โดยการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจประกันภัยกลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มลูกค้ารายบุคคลเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มธุรกิจเมื่อก่อนจะโฟกัสเรื่องการประกันสินทรัพย์ แต่ตอนนี้เริ่มเห็นเทรนด์ความต้องการประกันภัยใหม่ เช่น ประกันภัยไซเบอร์ เป็นต้น หลายองค์กรเริ่มตระหนักถึงความปลอดภัยจากไซเบอร์มากขึ้น และเราเริ่มเห็นเทรนด์ตรงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกและถือเป็นโอกาสหนึ่ง โดยสุขภาพก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราเห็นแนวโน้มการเติบโตเยอะมาก คนเริ่มใส่ใจเรื่องสุขภาพหลังจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งสุขภาพมีโอกาสในการเติบโตสูงมากต่อจากนี้
 
**" ปีนี้ถึงแม้จะเป็นปีที่ท้าทายแต่ก็เป็นปีที่ลูกค้ามองหาแบรนด์ประกันที่มีความมั่นคงแข็งแกร่ง และเริ่มที่จะเลือกมาขึ้นโดยเฉพาะแบรนด์ระดับโลกและเป็นผลดีสำหรับเรา โดยมี 3 เครื่องยนต์หลักที่จะไปให้ถึงจุดนั้น คือ 1. เอเยนต์กับโบรกเกอร์ที่จะโฟกัสไปในต่างจังหวัด 2. พันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเรามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับธนาคารกรุงศรี รวมถึงธนาคาร ttb และ 3. กลุ่มลูกค้าองค์กร"**
 
"เราจะไปให้ถึงเป้าหมายได้จะเน้น 3 เสาเพื่อวางรากฐาน 1. คือฝ่ายขายทั้ง 3 ช่องทางต้องพัฒนาให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อที่จะวิ่งต่อไปข้างหน้าได้ 2. การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าโดยการนำดิจิทัล AI เข้ามาพัฒนา รวมถึงการบริหารความร่วมมือกับอู่ซ่อม โรงพยาบาล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้ามีความสุขกับการบริการของเราตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 3. การจัดสรรพอร์ตให้เกิดความสมดุล เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการคัดสรรบุคคลที่มีศักยภาพที่สามารถไปต่อกับองค์กรได้"
 
**สุดท้ายแล้วอลิอันซ์ประกันภัยจะเดินไปตามเส้นทางที่วางไว้หรือไม่ เครื่องมือพิสูจน์ก็คือเวลา แต่ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนี้สิ่งที่คนไทยต้องการก็คือความซื่อสัตย์ แข็งแกร่ง และหวังว่าอลิอันซ์ อยุธยา จะตอบโจทย์คนไทยได้ตามที่สัญญา**
กำลังโหลดความคิดเห็น