xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่งกองทุนเปิด SCBGQUAL รับมือเศรษฐกิจผันผวนเน้นลงทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นโลกยังอยู่ในภาวะผันผวนสูงต่อเนื่องและมีความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะ 12 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นโลก MSCI AC World Index ตั้งแต่ต้นปีปรับลดลงแรงกว่า 13.5% ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 บลจ. มองว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นโลกได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงไปพอระดับหนึ่งแล้วแล้ว บริษัทฯ จึงเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Quality Equity (SCBGQUAL) ที่มุ่งลงทุนในหุ้นกลุ่ม Global Quality ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดหุ้นโลก ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้สามารถทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อสูงได้ดี โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 28 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2565 สามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท

ความน่าสนใจเพิ่มเติมของกองทุน SCBGQUAL จะมุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality Index ที่ใช้วัดผลการดำเนินงานของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางใน 23 ประเทศของตลาดพัฒนาแล้ว ที่สะท้อนหุ้นที่มีคุณภาพสูง ภายใต้การคัดเลือกหุ้นด้วยระบบวิเคราะห์เชิงปริมาณและ Factor Investing โดยดูจาก 3 ปัจจัย คือ ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูง (ROE), หนี้บริษัทที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงมีความผันผวนของกำไรบริษัทที่ไม่สูงมาก อีกทั้งกองทุนยังป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ โดยกองทุน SCBGQUAL จะลงทุนในกองทุน iShares Edge MSCI World Quality Factor UCITS ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว และบริหารโดย BlackRock Asset Management Ireland Limited

“ในปัจจุบันตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงมากว่า 13% จากความกังวลต่อเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ภาวะสงคราม และโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทางบลจ. มองว่านักลงทุนได้ซึมซับข่าวร้ายมาพอสมควรแล้ว และหากมองจากมูลค่าพื้นฐาน (P/E ratio) ที่ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้หุ้นบางกลุ่มมีมูลค่าอยู่ในระดับที่เข้าทยอยเก็บสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มคุณภาพ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความเป็นผู้นำตลาด และสามารถสร้างผลกำไรที่เติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ” นางนันท์มนัส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น