สินมั่นคงกางกรอบเวลาฟื้นฟูกิจการเบื้องต้น ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ15 สิงหาคมนี้ พร้อมแจงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนกว่า2.9หมื่นล้าน รับเคลมโควิดพุ่งทะลุ2.3หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ทำการประกาศกรอบเวลาและขั้นตอนฟื้นฟูกิจการ เร่งแก้ไขปัญหาสินไหมโควิด
โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 และในวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ศาลฯ ได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯ จึงได้กำหนดกรอบระยะเวลาประมาณการเพื่อฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น และขั้นตอนกระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสินไหมโควิด และสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประมาณการกรอบระยะเวลาดำเนินการการฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น (ประมาณการ)
1บริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล17 พฤษภาคม 2565
2ศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และกำหนดวันนัดพิจารณาลูกหนี้อยู่ในสภาวะบังคับชั่วคราว หรือ สภาวะพักการชำระหนี้ (Automatic Stay)18 พฤษภาคม 2565
3ศาลจัดส่งคำร้องขอฟื้นฟูกิจการให้บรรดาเจ้าหนี้ประมาณเดือนมิถุนายน 2565
4ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ15 สิงหาคม 2565
5ศาลพิจารณามีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประมาณเดือนตุลาคม 2565
6ประกาศคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนในหนังสือพิมพ์และราชกิจจานุเบกษา (หลังจากศาลมีคำสั่งตามข้อ 5 ประมาณ 1 เดือน)ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565
7เจ้าหนี้ต้องดำเนินการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลา 1 เดือนนับจากวันโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผนประมาณเดือนธันวาคม 2565
8ผู้ทำแผนจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและส่งแผนฟื้นฟูกิจการภายใน 3 เดือนนับจากวันโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผน (ขอขยายได้ 2 ครั้งๆ ละไม่เกิน 1 เดือน)ประมาณเดือนมีนาคม 2566
9เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าหนี้ประมาณเดือนเมษายน 2566
10เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาลงมติออกเสียงในแผนฟื้นฟูกิจการประมาณเดือนพฤษภาคม 2566
11ศาลล้มละลายพิจารณาคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการประมาณเดือนมิถุนายน 2566
12ผู้บริหารแผนดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการกรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามกรอบระยะเวลาดำเนินการนี้เป็นการประมาณการเบื้องต้นและภายใต้สมมุติฐานที่ดีที่สุด ทั้งนี้ กรอบระยะเวลาดำเนินการอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและจำเป็น
**ขาดทุนกว่า2.9หมื่นล้าน**
รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในไตรมาสแรกปี 2565 บริษัทมีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิรวม 29,421 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ผลดำเนินงานของของบริษัทเนื่องจากในไตรมาสแรกปี 2565 บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 31,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29,388 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1,313%
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดที่ 23,260.74ล้านบาท
เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดเพียง 19.08 ล้านบาท