นายเอสเตบาน เบอบาโน่ Executive Vice President, Fixed Income Strategist, PIMCO ได้ให้มุมมองว่าในช่วง 6-12 เดือนต่อจากนี้ เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะยังคงขยายตัวต่อไปได้และคาดการณ์จะขยายตัวได้ 3% ในปี 2022 (ที่มา PIMCO cyclical outlook ณ มีนาคม 2022) อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกรวมทั้งธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่อาจต้องเผชิญกับภาวะ Stagflation จากปัจจัยหลัก 4 ส่วน ได้แก่ 1) ระดับราคาพลังงานและอาหารที่ปรับสูงขึ้น 2) ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดสภาวะชะงักงัน (Supply Chain Disruption)
3) ภาวะทางการเงินและสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้น 4) ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ลดลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูง ทั้งนี้ PIMCO เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนเกิดสงคราม โดยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ทั่วภูมิภาคยุโรป โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2022 มาอยู่ที่ 5% และมีความเสี่ยงที่เร่งตัวขึ้นได้หากสงครามรัสเซียและยูเครน ยืดเยื้อยาวนานรวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นของมาตรการ Sanction ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ส่งสัญญาณที่จะลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่ง PIMCO มองว่าเป็นการป้องกันผลกระทบรอบที่สองของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นและการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอยมีเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นางอรพรรณ ตัณฑประศาสน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีมุมมองต่อสถานการณ์ตลาดนับจากต้นปีนี้เผชิญความผันผวนมากและยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนอยู่ บลจ.ยูโอบี มองว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องจากการผ่านพ้นช่วงการระบาดใหญ่ของ Covid-19 และหลายประเทศสามารถบริหารจัดการควบคุมการระบาดได้ดีและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความต้องการสินค้าบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการตึงตัวขึ้นของตลาดแรงงานส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับมุมมองของทาง PIMCO ในมุมของการลงทุน นักลงทุนควรกระจายการลงทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงจากสงคราม และกระจายเงินลงทุนบางส่วนในตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นได้ ทาง บลจ.ยูโอบี แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (UGIS-A) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) เน้นลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) บริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited ผู้เชี่ยวชาญจัดการลงทุนระดับโลก กองทุนหลักมีเป้าหมายสร้างกระแสรายได้ในระดับสูงโดยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย
นางอรพรรณได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในกองทุน UGIS-A หรือ UGIS-N เหมาะสมกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนมายังตราสารหนี้หรือกองทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ในขณะที่ความผันผวนไม่สูงนัก และในส่วนของ PIMCO เอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Active Manager ที่มีประสบการณ์การบริหารกองทุนตราสารหนี้โลกมาอย่างยาวนาน สามารถบริหารกองทุนหลักในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวนอย่างมากหรือมี Market Shock เกิดขึ้น นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย Yield to Maturity ของกองทุนหลัก ที่ 6.45% และ Duration ที่ 2.55 ปี (ที่มา : PIMCO ณ 31 March 2022) สะท้อนถึงผลตอบแทนที่น่าสนใจ และพอร์ตที่พร้อมรับกับความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้