TMBAM Eastspring ปลื้มกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBABRMF) ได้รับรางวัลกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารหนี้ยอดเยี่ยม จาก Morningstar Awards 2022 แม้ในช่วงตลาดผันผวน เชื่อมั่นสามารถรักษามาตรฐานการบริหารกองทุนให้ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring กล่าวแสดงความยินดีจากการประกาศรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Morningstar Fund Awards 2022 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 พร้อมเผยถึงเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBABRMF) ที่สามารถสร้างผลงานอันโดดเด่นจนได้รับรางวัลกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยมปี 2022 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ (Best Retirement Mutual Fund-Fixed Income)
“การที่กองทุนได้รับรางวัล Morningstar Awards ในครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในฐานะบริษัทจัดการลงทุน เนื่องจากเป็นรางวัลที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นบรรทัดฐานแนวทางสำหรับการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไปสู่เป้าหมายการลงทุนได้ในที่สุด จึงเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของบริษัทฯ อย่างยิ่ง
สำหรับปัจจัยที่ทำให้กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ได้รับรางวัล Morningstar Awards ในครั้งนี้ เป็นเพราะ “ธนไพบูลย์เพื่อการเลี้ยงชีพ” สามารถลงทุนในตราสารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งพันธบัตรตราสารหนี้ภาครัฐ สถาบันการเงินและภาคเอกชน ซึ่งเปิดกว้างสำหรับการลงทุนครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ จึงสามารถกระจายความเสี่ยงได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนมืออาชีพของเราจะใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารพอร์ตลงทุน จัดการ duration ให้สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ และยังคงรักษาความผันผวนของกองทุนให้อยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ยังคงรักษาสภาพคล่องได้สูงสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญอย่างมากกับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Credit Risk) โดยมีการสร้างระบบฐานข้อมูลภายใน (Internal Rating) ขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย”
“โดย “ธนไพบูลย์เพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นหนึ่งในกองทุนรวมประเภทกองทุนตลาดเงินและตราสารหนี้ในตระกูล “ธนแฟมิลี่” ที่ TMBAM Eastspring เป็นผู้ริเริ่มสร้างและบริหารจัดการเอง โดยจัดตั้งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม.2557 จนถึงปัจจุบันมียอดรวมสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการจำนวน 374 ล้านบาท (ณ วันที่ 25 มี.ค. 2565) โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถรักษามาตรฐานการบริหารกองทุนนี้ให้ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป” คุณอดิศร กล่าว
นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน แสดงมุมมองการลงทุนไว้ว่า “สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันคาดว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 หลังจากที่ประชากรส่วนใหญ่ในแต่ละประเทศได้รับวัคซีน ซึ่งจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากทั้งราคาน้ำมันและวัตถุดิบต่าง ๆ ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มดำเนินนโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้น ผ่านการลดมาตรการ QE และทยอยปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงมีความรุนแรง ได้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและภาวะเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะส่งผลกระทบทางลบต่อตราสารหนี้ได้ในระยะสั้น ตราสารหนี้ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีติดพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี”
นายธีระศันส์ ทุติยะโพธิ ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายตราสารหนี้ กล่าวเสริมเพื่อเป็นแนวทางการลงทุนอีกว่า “แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีความผันผวนไม่แน่นอนในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะจากความกังวลของผู้ลงทุนต่อแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็ตาม แต่สำหรับ “ธนไพบูลย์เพื่อการเลี้ยงชีพ” นั้น หากลงทุนได้นานพอ ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป จะสามารถเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี สามารถลดทอนผลกระทบจากเงินเฟ้อ และกองทุนยังมีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำอีกด้วย จึงเชื่อมั่นได้ว่ากองทุนนี้จะเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพ และยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสิทธิในการลดหย่อนภาษีไปพร้อมกับผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว ”