บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด คว้ารางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ(Best Fund House Winner : Best Domestic Equity House) จากการประกาศผลรางวัล Morningstar Awards 2022 บทพิสูจน์ความสำเร็จของการทำงานอย่างมืออาชีพ ในการทุ่มเทแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ภายใต้แนวคิดที่ชัดเจนและน่าสนใจ จนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างโดดเด่น โดยมี น.ส.ภาวิณี องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากขวา) และนายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (ที่ 2 จากขวา) นำทีมรับมอบรางวัลจาก น.ส.ธารินี ศิริชยาพร Head of Business Development and Operations บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย)
น.ส.ภาวิณี กล่าวว่า หัวใจความสำเร็จของ บลจ.ทิสโก้ คือความทุ่มเทในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึก เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ ผ่านการใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงการบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรมภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะในภาวะการลงทุนปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนให้ทันการณ์ บลจ.ทิสโก้ จึงได้พัฒนาเครื่องชี้วัดต่างๆ และสร้างแบบจำลองด้านการลงทุนเข้ามาใช้ เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนแม่นยำและรวดเร็วขึ้น ประสานกับความสามารถของทีมผู้จัดการลงทุน จึงทำให้การคัดเลือกตราสารและกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“ในยุคที่การลงทุนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแล้ว การบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรมยิ่งช่วยให้การลงทุนมีความยั่งยืน โดย บลจ.ทิสโก้ ได้กำหนดแนวทางการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในทุกกระบวนการลงทุน ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG : Environment, Social, Governance) ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อลงทุน การติดตามตราสารลงทุน รวมถึงการประเมินและปรับมุมมองการลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัย ESG อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ” น.ส.ภาวิณี กล่าว
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ แม้จะยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID 19 ในระดับสูง แต่เศรษฐกิจไทยก็ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างชัดเจน สาเหตุจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นของภาครัฐ และความคุ้นชินของประชาชนที่เริ่มปรับตัวกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนของ บลจ.ทิสโก้ ในปี 2565 นี้ จึงมุ่งเน้นการจัดสรรกองทุนที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เพิ่มความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์จากต่างประเทศระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี
“ในปีนี้การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น จากปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจโลกและการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับความผันผวนจากภาวะดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น บลจ. ทิสโก้ จึงคาดว่าในปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังจะสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้อีกเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนเองก็จะต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากความท้าทายในปีนี้”