นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมาถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิต แต่ในวิกฤต เอไอเอ ประเทศไทย ได้มองเห็นโอกาสและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจนของเรา คือต้องการส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni Channel) ของเอไอเอ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะจากช่องทางใด ซึ่งความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทยในปี 2564 ท่ามกลางวิกฤตต่างๆ นั้น มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุกฝ่ายและตัวแทนประกันชีวิตทุกท่านที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
ทั้งนี้ ส่งผลให้ในปี 2564 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ร้อยละ 23 คิดเป็นมูลค่า 23,542 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรวมร้อยละ 26 คิดเป็นมูลค่า 157,446 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) ร้อยละ 40(3) คิดเป็นมูลค่า 4,740 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสุดท้าย ส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันกลุ่ม Employee Benefit (EB) ร้อยละ 18(3)
ส่วนแนวโน้มการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเชื่อว่าจะส่งผลดีแก่ทั้งธุรกิจประกันชีวิตและวินาศภัยต่อจากนี้เนื่องจากจะทำให้ความเสี่ยงด้านการเคลมสินไหมลดลง และประชาชนตระหนักและหันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้นหลังจากเริ่มมีความเข้าใจในความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของโรคอุบัติใหม่จากการระบาดในครั้งนี้
สำหรับแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่นๆ ทั้งจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ในขณะที่คนไทยยังไม่พร้อมเกษียณ โดยเอไอเอจะช่วยคนไทยวางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประกันสังคมที่ถูกปรับลดลง(4) เราจึงเน้นให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้อย่างทั่วถึงเพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินให้ผู้เอาประกันภัยอุ่นใจยิ่งขึ้น อีกทั้งอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เอไอเอก็พร้อมนำเสนอโอกาสด้านอาชีพตัวแทน AIA Financial Advisor หรือ AIA Life Advisor ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่มั่นคง และสร้างคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น นอกจากนี้ เอไอเอยังสามารถคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในทุกมิติ ด้วยการพัฒนาระบบการทำงานและการบริการโดยใช้กลยุทธ์ ABCDE มาเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคง พร้อมมอบความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตของคนไทย”
กลยุทธ์ ABCDE ที่จะผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งได้อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย
• A - Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ผลักดันสู่การเป็น Digital Agent ในอนาคต
• B - Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร
• C - Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สำหรับการพัฒนาในทุกๆ ก้าว เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด
• D - Digitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัล กับการเป็น Digital Insurer โดยมุ่งเฟ้นหาและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล
• E - ESG (Environmental, Social and Governance) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านกลยุทธ์ ESG ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงพันธกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอกับ AIA One Billion ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนทั่วเอเชียกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2030