xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นจีนทัพหน้า RMF เปิดขุมทรัพย์ A-share ยุคดิจิทัล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หุ้นจีนเป็นทัพหน้า หุ้นไทยเป็นทัพหลัง” นิยามการลงทุนของ “วิโรจน์ ตั้งเจริญ” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน พัฒนาธุรกิจและตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด

แล้วทำไมต้องเป็นจีน?
วิโรจน์ให้เหตุผลว่า ระบบเศรษฐกิจจีนในปัจจุบันยังมีความสามารถในการพัฒนาและขยายการเติบโตได้อีกในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาเทคโนโลยี และการบริโภคภายในประเทศจากจำนวนประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน ซึ่งการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน รวมถึงนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบ New Economy จะเป็นตัวซัปพอร์ตให้เกิดการเติบโตในระยะยาว และสามารถขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกเบียดกับสหรัฐอเมริกาได้ต่อจากนี้

“การลงทุนในจีนยังคงมีความผันผวนอยู่ แต่เราเชื่อว่าจีนเป็นประเทศที่น่าลงทุนเนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งเป็นประเทศแรกที่มีปัญหาเรื่องไวรัสโควิด -19 และสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเขาเติบโตจากภายในไม่ได้พึ่งพาการเติบโตจากภายนอกในช่วงวิกฤต ถ้าเราไปดูอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเขาในปี 2020 ทุกประเทศติดลบหมด แต่จีนมีอัตราเติบโตเป็นบวก และถ้ามองในระยะยาวเชื่อว่าจีนมีโอกาสเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกได้”


A-share ขุมทรัพย์ยุคดิจิทัล
ที่ผ่านมามีหลายกองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีน ซึ่งมีทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่วิโรจน์มองว่า นอกจากหุ้นจีนที่จดทะเบียนนอกประเทศแล้ว ขุมทรัพย์ที่แท้จริงของยุคนี้น่าจะอยู่ที่ตลาดหุ้น A-share ที่เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับนักลงทุนภายในประเทศเท่านั้น ก่อนที่จะมีการเปิดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าลงทุนได้ โดยจุดเด่นของตลาด A-share ประกอบด้วย 1. ราคาน่าสนใจ ซึ่งเมื่อเทียบกับหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดอื่นแล้วราคาจะถูกกว่า 2. ราคาหุ้นในส่วนของ P/E Ratio ยังต่ำกว่าอัตราการเติบโตของบริษัท 3. การนำหุ้นในตลาด A-share ไปคำนวณในดัชนี MSCI ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และสุดท้าย 4. ศักยภาพการเติบโตของประเทศจีนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

“การลงทุนในจีนประเด็นหลักไม่ได้มาจากการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างเดียว อัตราการเติบโตของจีดีพีไม่ได้ตอบว่าการลงทุนในหุ้นจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน มันแค่เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือไส้ในของการลงทุนคือเทคนิคการคัดเลือกหุ้น เพราะบางครั้งจีดีพีโตแค่ 6-7% แต่หุ้นที่เราลงทุนโตในระดับ 10-20% ก็มี”

นอกจากนี้ ปัญหาด้านสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ดูเหมือนจะส่งสัญญาณดีขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงประธานธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งลักษณะของ โจ ไบเดน จะแตกต่างจากทรัมป์มาก และเป็นคนเปิดกว้างทางการค้ามากกว่าทรัมป์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายในระดับหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุนได้มากขึ้นสำหรับประเทศจีน และการค้าโลก

หุ้นจีนทัพหน้า RMF
ทำไมการลงทุนในหุ้นจีนตลาด A-share ถึงเหมาะต่อการลงทุนใน RMF และ SSF วิโรจน์บอกว่ากองทุน RMF และ SSF เป็นการลงทุนระยะยาว และที่ผ่านมาการลงทุนใน RMF ของคนไทยมีสินทรัพย์ในประเทศแล้วการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ และต่อจากนี้การลงทุนในหุ้นจีนน่าจะตอบโจทย์การลงทุนเพื่อวางแผนเกษียณ และกองทุน SSF ที่มีระยะเวลาการลงทุนยาวถึง 10 ปีได้

ทั้งนี้ หากให้ยกตัวอย่างพอร์ตการลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากสามารถลงทุนในหุ้นได้ 70% ขึ้นไป วิโรจน์แนะนำว่าใน 70% นั้นควรมีจีนอย่างน้อย 30% หรือ 1 ใน 3 ของพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยง หรือประมาณ 15-20% ของพอร์ตรวม

“การที่เราลงทุนระยะยาวในจีนน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ฉะนั้น นักลงทุนควรมีพอร์ตการลงทุนในจีนเพิ่ม ซึ่งภาพการลงทุนในจีนอยากให้มองยาวๆ ไม่แค่การลงทุนในหุ้นจีนทั่วโลกแล้ว ควรมีการลงทุนในหุ้นจีนตลาดภายใน หรือ A-Share ด้วยเป็นฝาแฝดอภินิหารกันไปเลย”

สำหรับคนที่มีมุมมองเดียวกับเรา บลจ.กรุงไทยมีกองทุนเด่นที่น่าสนใจ และถือเป็นกองทุนที่มีการคัดเลือกหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำลังจะเปิดขายเป็นกองทุน RMF ในช่วงเดือนธันวาคม ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ ฟันด์ (KT-Ashares)

สุดท้ายนอกจากการลงทุนในจีนแล้วยังมีหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เฮลท์แคร์ รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปอีกที่น่าสนใจ โดยวิโรจน์บอกว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และเฮลท์แคร์ ได้รับประโยชน์หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มัล

สำหรับเฮลท์แคร์เชื่อว่าจะเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้ เพราะคนจะมีอายุยืนยาวมากขึ้น ฉะนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและผู้สูงอายุอย่างโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ นวัตกรรมไบโอเทค รวมถึงบริษัทประกันชีวิต และประกันสุขภาพจะได้รับอานิสงส์จากสังคมสูงวัยในยุคนี้

ขณะที่ราคาหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงมาเยอะ แต่ยังเป็นช่วงที่ราคาต่ำอยู่ ซึ่งการเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน จะส่งผลดีต่อหุ้นยุโรปที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังงานบริสุทธิ์ที่สอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่

ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นทัพกลางของพอร์ตการลงทุนได้ ส่วนเรื่องหุ้นไทย “วิโรจน์” บอกว่า หุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก ซึ่งหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ แต่ปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนหุ้นไทยหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้มีเพียงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเท่านั้น และถ้าเห็นสัญญาณนี้เมื่อไรนักลงทุนสามารถเข้าลงทุนเพิ่มเติมได้

เอาเป็นว่ามีจีนเป็นทัพหน้า แล้วใช้หุ้นไทยเป็นทัพหลังไปก่อนแล้วกัน

กลยุทธ์การลงทุนของกองทุน จะเน้นลงทุนในหุ้นจีนที่มีการเติบโตสูง คุณภาพดี มีมูลค่าที่สมเหตุสมผล และคัดเลือกหุ้นแบบ High Conviction โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชิงลึก รวมทั้งเน้นกลยุทธ์การสร้างพอร์ตการลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของการบริโภคภายในประเทศจีน

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 30 ต.ค. 63) อยู่ที่ 8.08%


กำลังโหลดความคิดเห็น