น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลมาโดยตลอด ถือเป็นวิสัยทัศน์หลักในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม โดยนำแนวคิด Sustainability มาปรับใช้ในการพัฒนาองค์กรในทุกมิติ รวมทั้งการบริหารจัดการกองทุนโดยนำปัจจัยด้าน ESG มาผนวกในการวิเคราะห์และเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการลงทุน (ESG Integration) ซึ่งกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี เชื่อมั่นว่า ESG จะช่วยเสริมกระบวนการลงทุนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด พร้อมช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ในระดับบริษัทที่ลงทุน”
“กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี และ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มุ่งมั่นที่จะนำเสนอการลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing) โดยเมื่อเดือนมกราคม 2563 กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ระดับภูมิภาคแห่งแรกในสิงคโปร์ ได้ลงนามในหลักการสนับสนุนการลงทุนอย่างรับผิดชอบร่วมกับ UNPRI (UNPRI : Principles for Responsible Investment) และ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทย่อยของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ร่วมยึดมั่นตามวิสัยทัศน์ โดยเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแรกๆ ในประเทศไทยที่ปฏิบัติตามแนวทางของ PRI เกี่ยวกับการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในกระบวนการลงทุน”
“กระบวนการเสริม ESG เข้าสู่กระบวนการลงทุนตามแนวทางของ UNPRI นั้นเป็นกลยุทธ์ในระดับภูมิภาคของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพต่อกระบวนการลงทุน และมุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกการลงทุน (Investment Solution) ที่ตอบโจทย์และยังแสดงความรับผิดชอบต่อนักลงทุนทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุนได้ในระยะยาว”
ส่วนในประเทศไทยนั้น ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมได้นำเอาปัจจัย ESG มาประกอบกับกระบวนการทางธุรกิจและมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยแนวคิดหลักที่ธุรกิจจะต้องมี คือการบริหารจัดการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการบริหารงานเพื่อผลประกอบการที่ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทได้ในระดับหนึ่ง
บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย ในการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีการใช้หลักเกณฑ์ ESG ในการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นทั่วโลก (Global Equities) โดยตลาดหุ้นโลกในภาพรวมยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวและมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จึงคัดสรรกองทุนที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพในธีมการลงทุน ESG โดยแนะนำ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์ (UESG) เสนอขายครั้งแรก 17-21 สิงหาคม 2563 นี้
โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่มีคุณภาพทั่วโลก กองทุนประเภท feeder fund ที่ลงทุนผ่าน Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) บริหารกองทุนโดย Robeco Institutional Asset Management B.V. ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน 75 บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับการปฏิบัติตามแนวทางการลงทุนที่ยั่งยืน โดย ShareAction องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนการลงทุนเพื่อสิ่งที่ดี
Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับเรตติ้ง 5 ดาว จาก Morningstar (ณ 31 ก.ค. 2563) โดยมีกลยุทธ์ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพจากประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกและมีศักยภาพสูงในการเพิ่มมูลค่า การเลือกหุ้นขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ปัจจัย ESG อย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีความเข้าใจในหลักการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน มีกระแสเงินสดสูง และผลตอบแทนที่แข็งแกร่งจากเงินลงทุน
น.ส.รัชดากล่าวเสริมว่า “การประสานการคัดเลือกหุ้นคุณภาพโดยใช้ปัจจัยทางด้าน ESG เข้าไปเสริมในกระบวนการลงทุนนั้น จะทำให้กองทุน UESG สามารถตอบโจทย์นักลงทุนทั้งการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว และลดความเสี่ยงระดับบริษัทในพอร์ตการลงทุนได้ โดย Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) สามารถสร้างผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ที่ 36% ซึ่งชนะเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World NR EUR อยู่ที่ 11.5% (ที่มา : Morningstar Direct ณ 31 ก.ค. 2563)”