ราคาทองคำ 3 หมื่นใกล้พีก อัปไซด์น้อย หลังผลตอบแทนลงทุนหลังเงินเฟ้อถึงจุดต่ำสุดแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกชะลอซื้อเก็บ แนะขายทำกำไร ปรับพอร์ตลงทุนหุ้นจีนแทน
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) กล่าวว่า การที่ราคาขายปลีกทองคำภายในประเทศใกล้จะแตะ 30,000 บาท มีแรงสนับสนุนหลักมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับผลตอบแทนของดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้ออยู่ในระดับติดลบจากคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางจะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นกว่ากรอบที่ได้ตั้งไว้เดิมในระยะถัดไป
นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย ทำให้มีความต้องการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานด้านอื่นยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยในระยะสั้นคาดว่าราคาจะมีความผันผวนค่อนข้างมาก และความต้องการซื้อทองคำเพื่อการบริโภคและการเข้าซื้อของธนาคารกลางจะเริ่มลดลงเมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาก
"คำแนะนำสำหรับลูกค้าที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนทองคำควรขายทำกำไรในระยะนี้หรือไม่
สำหรับลูกค้าที่ถืออยู่สามารถถือต่อไปได้ หรือขายทำกำไรหากมีกำไร โดยแนะนำถือทองคำ 5-10% ของพอร์ต เพื่อช่วยในการกระจายความเสี่ยง มากกว่าการเข้าลงทุนในทองคำเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตหรือการเก็งกำไรในระยะสั้น" นายนาวินกล่าว
ด้าน บลจ.กรุงไทยเปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในทองคำว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองสัมพันธ์กับ "ยิลด์แท้จริง" เป็นหลัก ปัจจุบันยิลด์แท้จริงของสหรัฐฯ ดูจาก TIPS 10 ปี ปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดเดิมที่เคยทำไว้ในปี 2012 ซึ่งถ้าจะเข้าลงทุนทองคำในขณะนี้จะต้องมั่นใจว่ายิลด์แท้จริงจะลงต่อ แต่บริษัทไม่มีความมั่นใจว่าผลตอบแทนจากการลงทุนหลังเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงอีกจึงมองว่าการลงทุนในทองคำไม่น่าสนใจ ณ ราคาปัจจุบัน
ขณะที่นักลงทุนที่มีการลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้วบริษัทแนะนำให้ขายทำกำไร และหากรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นต่างประเทศได้ บริษัทแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศจีน
