xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบีโชว์AUMโตพรวด16.6% เชื่อศก.ไม่ถดถอย-หุ้นปีหน้า1750

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บลจ.ยูโอบีโชว์AUMโต16.6%แซงเศรษฐกิจ ดันยอดรวมแตะ2.45แสนล้าน กองสำรองเลี้ยงชีพ-ส่วนบุคคลมาแรงเพิ่มอีก2หมื่นล้าน จ่อเปิดตัวบริการใหม่เปิดบัญชีกองทุนแค่ปลายนิ้วธันวาคมนี้ มั่นใจเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอย หุ้นไทยปีหน้าแตะระดับ1700จุด แนะลงทุนเพิ่มหากต่ำกว่า1550จุด

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ. ยูโอบี) (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) นับจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2562  มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) เติบโต  16.6% จาก 2.10 แสนล้านบาท เป็น 2.45 แสนล้านบาท (ณ 30 ส.ค. 2562) มากกว่าภาพรวมตลาดในช่วงเดียวกันที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 4% ส่วนมูลค่า AUM เฉพาะช่วง 4 เดือนของบริษัท (นับจากเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2562) มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 9% ซึ่งAUMทั้งหมดของบริษัทแบ่งเป็นกองทุนรวม60% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ30% และที่เหลือเป็นกองทุนส่วนบุคคล

ทังนี้การเติบดังกล่าวมาจากการเติบโตของ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล จากลูกค้าสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีมูลค่า AUM เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท (ณ 30 ส.ค. 2562) ประกอบกับนับจากเดือนพฤษภาคม – สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เสนอขายกองทุนรวมใหม่อีก 5 กองทุน เพื่อตอบโจทย์กับสภาวะตลาดการลงทุนปัจจุบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี

"การเติบโตขิงธุรกิจในปีนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะมีเรื่องการขะลอตัวของเศรษฐกิจ และความคัดแย้งทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อการเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)จึงชะลอการลงทุนและนำเงินไปอยู่ในรูปแบบเงินฝากขึ้น"นายวนากล่าว

ทั้งนี้ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) ยังคงนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับภาวะตลาดและสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญ การสนับสนุนจากเครือข่ายในภูมิภาคที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการจับมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก

นอกจากนี้ ได้มุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยเข้าร่วมโครงการ NDID (National Digital ID) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ และคาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้จะสามารถเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ช่วยให้การเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารองค์กร สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปัจจุบันอยู่ในภาวะชะลอตัวแต่ไม่อยากให้นักลงทุนกังวล เนื่องจากยังมีการขยายตัวอยู่บ้าง โดยความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเองน่าจะมีการเจรจาอีกหลายรอบ โดยถ้าผลออกมาดีก็จะส่งผลในแง่บวกกับบรรยากาศการลงทุน

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการเจรจาจะออกมาในแง่ลบ และยืดเยื้อต่อไปอีก ทั้งสองฝ่ายคงไม่มีมาตรการที่สร้างผลกระทบเพิ่มเติมเข้ามาอีก โดยภาพรวมทั้งหมดสะท้อนถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่จะอยู่ในช่วงขาลงไปจนถึงปีหน้า

"การเจรจาของสหรัฐและจีนทั้งสองฝ่ายใช้มาตรการออกมาเต็มที่แล้วและหลังจากนี้คงหยุดชะลอ และไม่มีอะไรเพิ่มเติมแต่คงไม่ถอยไปจากเดิม ซึ่งทำให้เศรษฐกิจต่อจากนี้คงไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นได้ โดยธนาคารกลางทั่วโลกเองก็รู้และคงจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงไปจนถึงปีหน้าโดยเฟดเองก็น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก1ครั้งในปีนี้และอีก2ครั้งในปีหน้า"

สำหรับเศรษฐกิจไทยหลังจากปรับประมาณการณ์มาตลอดคาดว่าสิ้นปีการขยายตัวของเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่2.8%และคงไม่ได้แย่ลงไปกว่านี้แล้ว โดยตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 1550-1700จุดไปถึงสิ้นปีและจะยืนที่ระดับ1750จุดได้ในปีหน้า โดยระดับที่ควรจะเข้าลงทุนเพิ่มเติมคืิอตั้งแต่1550ลงไป

นายวจนะ กล่าวอีกว่า บริษัทเชื่อว่าในอีก12เดือนข้างหน้าจะยังไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถึงแม้ตัวชี้วัดที่บริษัทติดตามจะมีความน่ากังวลมากว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมาแต่ยังไม่ถึงกับน่าตกใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น