xs
xsm
sm
md
lg

กอง PWIN เพิ่มลงทุนกัญชา ฟิลลิปชี้หุ้นนวัตกรรมผลงานเด่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายติยะชัย ชอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ฟิลลิป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ เปิดขายกองทุนเปิดฟิลลิปเวิลด์อินโนเวชั่น หรือ PWIN ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2561 โดยมีนโยบายกระจายการลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเป็นหลัก โดยกระจายการลงทุนใน 5 ธีมที่เป็นเมกะเทรนด์ ได้แก่ ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ อีสปอร์ต-วิดีโอเกม นวัตกรรมอินเทอร์เน็ต นวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมต่างๆ และธุรกิจไบโอเทคโนโลยี แม้ช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูง แต่กองทุน PWIN ก็มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยมีผลตอบแทนนับถึงวันที่ 7 มีนาคม 2562 อยู่ที่ 18.94% (YTD) ทำให้มีคำถามตามมาว่า กองทุนจะยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเช่นนี้ได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ หรือถึงเวลาของการปรับฐานแล้ว ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า กองทุน PWIN ไม่ใช่กองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่เป็นกองทุนรวมที่ไปลงทุนในกองทุนอีทีเอฟที่มีนโยบายการบริหารจัดการเพื่อชนะผลตอบแทนดัชนีอ้างอิง และเน้นลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ความก้าวหน้าทางการแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีแก้ไขพันธุกรรม CRISPR กำลังจะเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคในอุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นต้น

กองทุน PWIN มีกลยุทธ์เฟ้นหาการลงทุนชั้นเลิศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ จากทั่วโลก โดยขึ้นอยู่กับโอกาสในการลงทุน ราคา รวมถึงภาวะตลาดโลก และล่าสุดได้เริ่มกระจายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์ เป็นเมกะเทรนด์ที่ 6 โดยมีเหตุผล 3 ประการ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทั่วโลก กระแสการเข้าซื้อและควบรวมกิจการต่างๆ ในอุตสาหกรรม รวมไปถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว และราคาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

“PWIN ได้เริ่มลงทุนใน ETFMG Alternative Harvest ETF เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ เช่น ที่แคนาดาและหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา ให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสันทนาการได้แล้ว หรือการควบกิจการและซื้อกิจการของบริษัทผลิตยาสูบขนาดใหญ่ อัลเทรีย กรุ๊ป (Altria Group) ผู้ผลิตบุหรี่มาร์โบโร่ ได้เข้าซื้อหุ้น 45% ของบริษัทยาสูบ โครนอส (Cronos) ในวงเงินราว 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคอนสเตลเลชั่น แบรนด์ส (Constellation Brands) เจ้าของเบียร์โคโรน่าเข้าซื้อกิจการแคโนพี โกรว์ธ (Canopy Growth) เพื่อผลิตเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่ทำจากกัญชา ด้วยวงเงินราว 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมกัญชามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในปี 2017 มีมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าในปี 2022 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์จะสูงถึง 37 พันล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งเหล่านี้คือพลังขับเคลื่อนที่จะส่งผลให้อุตสาหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์มีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีความผันผวนของราคาหุ้น ทีมผู้จัดการกองทุนจะทยอยเข้าซื้อสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป” นายติยะชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น