xs
xsm
sm
md
lg

ETF กับโอกาสการลงทุนที่มากกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Exchange Traded Fund (ETF) คือกองทุนเปิดที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยนโยบายการลงทุนของกองทุน ETF โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็น Index Fund ที่มุ่งเน้นในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นดัชนีตราสารทุน ดัชนีตราสารหนี้ หรือดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ หรือน้ำมัน เป็นต้น ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้กองทุน ETF เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน ได้แก่

กองทุน ETF ทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมสินทรัพย์ลงทุนเกือบทุกประเภท ทำให้นักลงทุนมีโอกาสและช่องทางในการลงทุนที่มากขึ้น สามารถเลือกและออกแบบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น

การที่กองทุน ETF เป็นกองทุนที่มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การซื้อขายกองทุน ETF นั้นทำได้ง่ายและสะดวก โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนได้ในลักษณะเดียวกับการซื้อขายหุ้นรายตัว กล่าวคือ สามารถซื้อขายได้ราคาตลาด ณ ขณะที่ส่งคำสั่งซื้อขายในช่วงเวลาตลาดเปิดทำการ ซึ่งต่างจากกองทุนรวมโดยทั่วไปที่จะได้ราคาซื้อขายที่ NAV ของกองทุน ณ สิ้นวันทำการเนื่องจากกองทุน ETF โดยส่วนใหญ่มีนโยบายการลงทุนในลักษณะของ Index Fund ดังนั้นค่าธรรมเนียมรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารจึงค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกองทุนรวมโดยทั่วไป

สำหรับกระบวนการลงทุนใน ETF นั้น นักลงทุนควรเริ่มจากการออกแบบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์รวมถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยควรจะมีการกำหนดถึงประเภทของสินทรัพย์ที่จะลงทุน รวมถึงการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนให้แก่สินทรัพย์แต่ละประเภท จากนั้นจึงทำการคัดกรองหา ETF ที่มีนโยบายการลงทุนอ้างอิงกับสินทรัพย์นั้นๆ เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้นักลงทุนอาจจะพบว่า ETF ที่คัดกรองมาได้นั้นอาจจะมีบางกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนกันหรือมีดัชนีอ้างอิงตัวเดียวกัน ดังนั้น ขั้นตอนถัดไปคือนักลงทุนจะต้องตัดสินใจเลือกลงทุนใน ETF ที่มีนโยบายเหมือนๆ กันเหล่านั้น โดยสิ่งที่ควรพิจารณาในการคัดเลือกกองทุน ETF เพื่อให้ได้กองทุนที่มีประสิทธิภาพนั้น ประกอบด้วย

การตรวจสอบดูว่ากองทุนนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากน้อยแค่ไหน การพิจารณาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากการลงทุนใน ETF ที่สร้างผลตอบแทนได้แตกต่างจากดัชนีอ้างอิงเป็นอย่างมากนั้นมีโอกาสสูงที่จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังจากการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งการพิจารณาประเด็นนี้สามารถพิจารณาได้จากค่า Tracking Error ของกองทุน ซึ่งค่า Tracking Error ของกองทุนนี้หากยิ่งต่ำก็แสดงว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากขึ้น

การตรวจสอบดูค่าใช้จ่ายที่กองทุนเรียกเก็บ หรือ Expense Ratio นักลงทุนควรเลือกกองทุนที่มี Expense Ratio ต่ำๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงนั้นจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนมากกว่า
พิจารณาถึงสภาพคล่องในการซื้อขายกองทุน โดยอาจจะพิจารณาจากมูลค่าการซื้อขายของกองทุนหรือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับราคาเสนอขายกองทุน (Bid-Ask Spread)

ทั้งนี้ นักลงทุนควรเลือกกองทุนที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงๆ หรือมี Bid-Ask Spread ต่ำๆ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อราคาซื้อหรือราคาขายกองทุนที่ผู้ลงทุนได้รับ

นอกจากประเด็นดังกล่าวข้างต้นแล้ว สิ่งที่นักลงทุนสามารถนำมาพิจารณาประกอบเพื่อใช้ในการตัดสินใจนั้นอาจจะเป็นประเด็นปลีกย่อยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของกองทุน อายุของกองทุน รวมถึงชื่อเสียงของบริษัทที่เป็นผู้บริหารกองทุน เป็นต้น

กองทุน ETF เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งของการลงทุนที่ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่กองทุน ETF ในปัจจุบันนี้มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมสินทรัพย์การลงทุนเกือบทุกประเภทจึงทำให้กองทุน ETF มีประโยชน์อย่างมากต่อนักลงทุนในการที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ดังนั้น การเริ่มศึกษาถึงการลงทุนใน ETF นั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและจะช่วยขยายขอบเขตการลงทุนของนักลงทุนให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น