xs
xsm
sm
md
lg

KASSET ตั้งเป้าทะลุ 1.4 ล้านล้าน รุกขยายลูกค้าลงทุนผ่านดิจิตอลแตะ 50%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยตั้งเป้า AUM ปีนี้โตอีก 10% ดันสินทรัพย์ภายใต้การจัดการทะลุ 1.4 ล้านล้านบาท พร้อมเปิดขายอีก 5-8 กองทุนหวังตอบโจทย์ลูกค้าให้ครบตามความต้องการ ขณะเดียวกันเล็งปรับตัวเพิ่มฐานลูกค้าลงทุนผ่านดิจิตอลเป็น 50%ของลูกค้าทั้งหมด จากเดิมปีนี้ลูกค้ากว่า 30% เข้ามาธุรกรรมมากขึ้น ระบุหุ้นไทยยังมีอัปไซด์ สภาพคล่องล้นบวกเศรษฐกิจโตช่วยหนุน แต่แนะจับตา Q4 ผันผวนหนัก นโยบายทรัมป์ และนโยบายการเงินยุโรป-ญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบการลงทุน

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทมีอัตราการเติบโตประมาณ 5% ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2560 มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.30 ล้านล้านบาท โดยแยกเป็นรายธุรกิจในส่วนกองทุนรวมอยู่ที่ 1.01 ล้านล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1.73 แสนล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 1.17 แสนล้านบาท โดยคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดจำแนกตามธุรกิจอยู่ที่ 20.1%, 16.0% และ 13.9% ตามลำดับ ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลนับว่ามีตัวเลขเติบโตสูงสุด เมื่อเทียบทั้ง 3 ธุรกิจ โดยเติบโตที่ 29.3%

ส่วนปีนี้ (2561) บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการอยู่ที่ 8-10% และจะมีการออกกองทุนใหม่อีกประมาณ 5-8 กองทุน โดยบริษัทมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำของธุรกิจกองทุนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน รวมถึงช่องทางการให้บริการและเครื่องมือช่วยการลงทุนต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับรูปแบบการลงทุนที่ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล

“บริษัทมีจำนวนลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มขึ้น ซึ่งยอด ณ สิ้นปี 2560 คิดเป็นสัดส่วนที่ 30% จากจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงสุดในอุตสาหกรรม เมื่อคิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการผ่านช่องทางดิจิตอลจะอยู่ที่สัดส่วนราว 21% ของ AUM กองทุนรวมทั้งหมด ส่วนเป้าหมายในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มขึ้นอีกเป็น 50% ของจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 30% ของ AUM กองทุนรวมทั้งหมด” นายวศินกล่าว

**หุ้นไทยยังมีอัปไซด์ จับตา Q4 ผันผวนหนัก**
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ และคาดว่าดัชนีปี 2561 น่าจะปรับตัวขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,850 จุด บนปัจจัยพื้นฐานที่ระดับ P/E ปี 2561ประมาณ 16.5 เท่า จากแนวโน้มอัตราการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ 10% บวกกับแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยมองว่าในปีนี้หุ้นขนาดใหญ่น่าจะมีโมเมนตัมที่ดีกว่าหุ้นขนาดเล็ก

“หุ้นไทยยังคงน่าสนใจเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยน่าจะอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงมากและเป็นตัวผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ โดยในช่วงระหว่างปีอาจมีการปรับตัวแตะรับ 1,900 จุด แต่ยังคงผันผวนโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่จะเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องในระบบต่อจากนี้ส่งผลให้หุ้นไทยผันผวนมากขึ้น ส่วนราคาหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมองว่าถึงจะมีราคาสูงขึ้นแต่ถ้าเทียบกับหุ้นทั่วโลกแล้วราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน ซึ่งหุ้นไทยน่าจะมีอัปไซด์อยู่พอสมควร” นางสาวธิดาศิริกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยความไม่แน่นอนในปีนี้ที่ผู้ลงทุนควรติดตาม ได้แก่ การดำเนินนโยบายของทรัมป์ การขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดงบดุลของสหรัฐฯ การเริ่มลดการผ่อนคลายทางการเงินของยุโรปและญี่ปุ่น รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ (Geopolitical risk) เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลต่อความผันผวนของการลงทุนในปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น