บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เพิ่มขนาดมูลค่าโครงการของ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม เดลี่ อัลตร้า พลัส ฟันด์ (UIDPLUS) จาก 50,000 ล้านบาท เป็น 70,000 ล้านบาท และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) จากเดิมมีมูลค่าโครงการที่ 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท โดยเริ่มมีผลตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อรองรับนักลงทุนที่ยังคงให้ความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้เสนอขายครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2559 และกุมภาพันธ์ 2560 ตามลำดับ
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกรวมทั้งในไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ในมุมมองระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนอยู่บ้างจากความแตกต่างในการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางแต่ละประเทศ ซึ่งมุมมองเศรษฐกิจโลกเชิงบวกจะส่งผลกดดันอัตราดอกเบี้ยจากการลงทุนตราสารหนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จึงมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อรับผลตอบแทนที่เหนือกว่าด้วยการกระจายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จึงได้นำเสนอขาย 2 กองทุนที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนตั้งแต่เปิดเสนอขาย และหลังจากนั้นยังคงได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองของนักลงทุนที่สอดคล้องกับ บลจ.ยูโอบี ดังนั้น กองทุนทั้งสองจึงได้เพิ่มมูลค่าโครงการเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว”
เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ (FED) มีแนวโน้มที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการจากรัฐบาลของนายทรัมป์อาจจะส่งผลกระทบต่อการค้าของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ด้านยุโรปยังคงมีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเมืองในยุโรปที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าในระยะยาวภาพรวมเศรษฐกิจโลกสามารถเติบโตได้ดี ในระยะสั้นยังคงเผชิญกับความผันผวนอยู่ อย่างไรก็ตาม บลจ.ยูโอบีเชื่อว่าการลงทุนในตราสารหนี้ยังคงเป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุน จึงได้คัดสรรการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและเหมาะกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม เดลี่ อัลตร้า พลัส ฟันด์ (UIDPLUS) ระดับความเสี่ยง 4 เพิ่มมูลค่าโครงการจาก 50,000 ล้านบาท เป็น 70,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน และตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผ่านการบริหารจัดการจากผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายยูโอบีในภูมิภาค เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนให้เติบโตจากการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก นอกจากนี้ กองทุนจะมีการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนให้มีความผันผวนต่ำ ทั้งการบริหารเครดิตของตราสาร (การผิดนัดชำระหนี้ของตราสาร) และบริหารสภาพคล่องของกองทุน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้น การลงทุน สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 5 วันทำการ (ปัจจุบัน T+1) โดยข้อมูล ณ 28 เมษายน 2560 กองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (30 มีนาคม 2559) ที่ 1.78% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.96%*
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) ระดับความเสี่ยง 5 เพิ่มมูลค่าโครงการจาก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท เน้นลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) บริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited ผู้เชี่ยวชาญจัดการลงทุนระดับโลก กองทุนหลักมีเป้าหมายสร้างกระแสรายได้ในระดับสูงโดยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ที่ได้รับผลประโยชน์และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในภาวะตลาดที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย เช่น ตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยกู้บ้านหรือสินเชื่ออื่นๆ เป็นต้น เพื่อสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ 1.91% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.96%