แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์โครงการ ‘โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ’ จากบริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นระยะเวลาประมาณ 21 ปี วงเงินไม่เกิน 3,887.40 ล้านบาท หลังเข้าลงทุนครั้งแรกในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เมื่อปลายปี 2558 ชูจุดเด่นทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมอยู่ในทำเลทองใกล้แยกราชประสงค์ ที่เป็นย่าน CBD และใจกลางแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ
นางสาวกนกวลี วิริยประไพกิจ กรรมการ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ จากบริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นระยะเวลาประมาณ 21 ปี โดยสิทธิการเช่าช่วงดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2581 ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีศักยภาพของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย หลังจากเมื่อปลายปี 2558 ได้เข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ทำเลอโศก-สุขุมวิท ติดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21
โดยโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 เป็นอาคารสูง 49 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น มีห้องพักจำนวน 497 ห้อง พื้นที่ทั้งหมด 66,628 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ ในซอยมหาดเล็กหลวง 1 ถนนราชดำริ ใกล้กับแยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ที่แวดล้อมด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ อาคารสำนักงาน จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยเข้าพักอาศัยเป็นจำนวนมาก โดยมีอัตราเข้าพักในปี 2559 ร้อยละ 80 และไตรมาส 1/60 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 มีอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90
นอกจากนี้ โครงการยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นเดสติเนชันของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ โดยปี 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้วจำนวน 32.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่อยู่ที่จำนวน 29.9 ล้านคน
นางสาวเพียงดาว วัฒนายากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ทรัสต์ LHHOTEL เข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ที่ตั้งอยู่ทำเลอโศก-สุขุมวิท ติดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 รถไฟฟ้า BTS และ MRT สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 ถึง 31 มีนาคม 2560 ได้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์แล้วทั้งสิ้น 1.1625 บาทต่อหน่วย โดยแบ่งเป็นจ่ายจากผลประโยชน์จากการดำเนินงานของปี 2559 เป็นจำนวน 0.9325 บาท/หน่วย และปี 2560 เป็นจำนวน 0.2300 บาท/หน่วย
ด้านนางสาววรดา ตั้งสืบกุล รองผู้จัดการใหญ่ Investment Banking Coverage ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ทรัสต์ LHHOTEL ได้พิสูจน์ให้นักลงทุนได้เห็นถึงศักยภาพของทรัพย์สิน โดยที่ผ่านมาโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 มีอัตราการเข้าพัก และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ทรัสต์ LHHOTEL สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าที่คาดการณ์ตอนเสนอขายครั้งแรก (IPO) ที่ 0.825 บาท/หน่วย
ในส่วนของทรัพย์สิน กองทรัสต์มีทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูงอยู่แล้ว คือโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ครั้งนี้ทรัสต์ LHHOTEL จะระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่คงมีศักยภาพสูงและตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองอีกด้วย การลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ปัจจุบัน รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหม่ๆ มีทางเลือกในการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพ และมีผลการดำเนินงานในอดีต (Track record) อีกทั้งการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมยังสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของทรัสต์ LHHOTEL ที่มุ่งเน้นการลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมที่มีศักยภาพสูง