บลจ.บัวหลวงอินคัม (B-INCOME) กระแสตอบรับดี นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก ยอดจอง IPO ถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยสามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่กำลังแสวงหาการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และมีรายรับสม่ำเสมอจากการลงทุน มีกำหนดเปิดเสนอขาย IPO ถึงวันอังคารที่ 16 พ.ค.นี้
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล Managing Director, Head of Business Distribution, Head of Corporate & High Net Worth Business บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) กล่าวว่า ในช่วงแรกของการ IPO กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี มียอดจองเข้ามาถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดจองซื้อทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เนื่องจากกองทุนได้ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และโอกาสได้กระแสเงินสดรับเป็นรายไตรมาสที่จะจ่ายคืนในรูปแบบการขายคืนอัตโนมัติ โดยยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้
“กองทุน B-INCOME เป็นกองทุนผสมที่ออกแบบมาเป็นการเฉพาะ โดยจะกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มหลักทรัพย์เพื่อไม่ให้พอร์ตผันผวนมากนัก ด้วยการให้น้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และจัดสรรเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนใน หุ้นปันผลดี ตราสารหนี้ประเภทไฮยิลด์ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ REIT ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากคุณลักษณะของตราสารเหล่านี้สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าตราสารหนี้ทั่วไป และจ่ายดอกผลเป็นประจำทุก 3 เดือน 6 เดือน เมื่อรวมกับดอกเบี้ยรับจากตราสารหนี้คุณภาพในประเทศที่จะลงทุนแล้ว เชื่อว่ากองทุนจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ” นายวศินกล่าว
กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) มีนโยบายกระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีคุณภาพและสามาถสร้างรายได้สม่ำเสมอ โดยผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ และสามารถลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 60 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยส่วนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของกองทุนบัวหลวง กองทุน B-INCOME จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในสัดส่วนที่ไปลงทุนในกองทุนนั้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการซ้ำซ้อน