บมจ.เอ็ม เอส ไอ จี เผย บริษัทได้นำนวัตกรรมใหม่พร้อมใช้ในโลคยุคดิจิตอล โดยได้เปิดแอปพลิเคชัน “MSIG Speedi” ซึ่งเน้นความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพให้กับลูกค้ามากขึ้น สำหรับปี 60 MSIG ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 5
นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) หรือ MSIG เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดประกันวินาศภัยในปี 2560 นี้ว่า ตลาดประกันวินาศภัยในปีนี้มีการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญต่อการให้บริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในองค์กรและลูกค้า เชื่อมั่นว่าจะทำให้ช่วยลดต้นทุนในการบริหารงานและสามารถช่วยยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 นี้บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัยวินาศภัยที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการและการซื้อขายออนไลน์ ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนที่ประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบเทคโนโลยีต่างๆ ภายในองค์กร โดยได้พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า พร้อมทั้งยังปรับปรุงองค์กรให้บุคลากรมีความคิดแบบดิจิตอลมากขึ้น
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “MSIG Speedi” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ต้องการลดความกังวลให้กับลูกค้าซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งให้ความสำคัญต่องานบริการมาเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ คาดหวังว่าจะมียอดดาวน์โหลดจากผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด โดยลูกค้าของบริษัทที่ทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทไว้สามารถทำได้ทุกประเภท จากปัจจุบันที่มีลูกค้ารวมกว่า 400,000 แสนราย
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับตัวแทนและนายหน้า ภายใต้ชื่อแอปพลิเคชัน “Activa” โดยจะเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2560 และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้จริงภายในไตรมาสแรกปี 2561 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนและนายหน้า สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ และเป็นไปตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.ว่าด้วยตัวแทน หรือนายหน้าที่จะขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ต้องขออนุญาตจาก คปภ.ก่อน ซึ่งบางบริษัทไม่สามารถทำได้ บริษัทจึงได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อไปปรับใช้ให้สอดรับกับประกาศของ คปภ.
อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 นี้บริษัทตั้งเป้ามีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 3,950 ล้านบาท เติบโต 3-4%