เมืองไทยประกันชีวิตเผย บริษัทร่วมงาน Money Expo 2017 สำหรับแนวคิดในการจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo 2017 ในปีนี้ คือ Financial Innovation 4.0 นวัตกรรมการเงิน 4.0 เพื่อตอบโจทย์โลกแห่งการเงินการลงทุนในยุคดิจิตอล
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบายยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ซึ่งบริษัทฯ ใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้านั้น ล่าสุดบริษัทฯ จะเข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo 2017 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2560 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับแนวคิดในการจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo 2017 ในปีนี้ คือ Financial Innovation 4.0 นวัตกรรมการเงิน 4.0 เพื่อตอบโจทย์โลกแห่งการเงินการลงทุนในยุคดิจิตอล ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตของเมืองไทยประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้า และเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้นำในฐานะ “Digital Insurer” อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านนโยบายหัวใจหลักคือ “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)”
ภายในงาน บูทเมืองไทยประกันชีวิตได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอลไว้อย่างครบครันและสามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตนเองได้อย่างตรงจุด โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ได้แก่
ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันให้ครอบครัว บริษัทฯ ขอนำเสนอ โครงการเมืองไทย คุ้มครองพิเศษ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 แพกเกจ โดยสามารถเลือกได้ตามระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย ได้แก่ โครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 1 ที่จ่ายเบี้ยน้อย แต่สามารถสร้างหลักประกันเงินล้านได้ (1) โครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 2 จ่ายเบี้ยสบายๆ 10 ปี และโครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 3 จ่ายเบี้ยสั้นๆ เพียง 7 ปี แต่รับเงินจ่ายคืนจนครบอายุ 90 ปี ซึ่งทั้ง 3 แพกเกจจะเน้นความคุ้มครองตลอดชีพ และหากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็ไม่ต้องรับภาระชำระเบี้ยประกันภัย โดยทั้ง 3 แพกเกจนี้จะได้รับความคุ้มครองสุขภาพโรคร้ายแรงจากสัญญาเพิ่มเติมซีไอ เพอร์เฟค แคร์ ที่คุ้มครองโรคร้ายมากถึง 36 โรคร้ายแรง โดยให้ความคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงิน และวางแผนภาษี โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแบบประกันภัย เมืองไทยกู๊ด ช้อยส์ 10/6 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน และมีเงินจ่ายคืนทุกปี สมัครได้ไม่ต้องตรวจสุขภาพ (2) และได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีอีกด้วย โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 14/7 ที่ชำระเบี้ยประกันภัย 7 ปี มีเงินจ่ายคืนทุกปี และหากเกิดโชคร้ายต้องตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร บริษัทฯ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระโดยเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยให้จากความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์การยกเว้นเบี้ยประกันภัยของผู้เอาประกันภัย (3) พร้อมเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระยังสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจ่ายเบี้ยสบายๆ ยาวถึง 16 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนทุกปี และสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่หากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็ได้รับสิทธิ์ยกเว้นชำระเบี้ยประกันภัย(3) และแบบประกันภัย เมืองไทยคุ้มครองตลอดชีพ 99/20 มีจุดเด่นที่ชำระเบี้ยประกัน 20 ปี แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาวจนครบอายุ 99 ปี พร้อมเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระยังสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้
ด้านผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการออมระยะสั้น และต้องการผลตอบแทนคุ้มค่าสูง บริษัทฯ ขอนำเสนอแบบประกันภัย เมืองไทยได้ใจ 3/2 จ่ายเบี้ยเพียง 2 ปี เบี้ยเท่ากันทุกเพศทุกวัย ครบ 3 ปีก็ได้รับเงินครบสัญญา ไม่ต้องตรวจสุขภาพ (2) และทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 70 ปี ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการภาระผูกพันนาน และมีความสามารถในการชำระเบี้ยสูง
และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองควบคู่ไปกับการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น บริษัทฯ นำเสนอ ผลิตภัณฑ์ โครงการ Beyond Saving 1 และโครงการ Beyond Saving 2 ซึ่งเป็นประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ ที่ชำระเบี้ยครั้งเดียว (Single Premium) มีจุดเด่นที่การเปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันภัยสามารถได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
“เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะ Digital Insurer เมืองไทยประกันชีวิตได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนเสนอขาย ขั้นตอนระหว่างการเสนอขาย และขั้นตอนการบริการหลังการขาย รวมถึงลูกค้าสามารถใช้บริการเกี่ยวกับกรมธรรม์ของตนเองผ่าน Smile Service Application สำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก “เมืองไทย Smile Club” ก็สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก Smile Privilege Application รวมถึงสมาชิกที่เลือกใช้บริการเลขาฯ ส่วนตัวก็สามารถใช้บริการผ่าน Smile Secretary Application ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน” นายสาระกล่าว