xs
xsm
sm
md
lg

STOXX ASEAN เนื้อหอม กองแรกเทรดแดนลอดช่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360' - กองทุน STOXX ASEAN เนื้อหอม บลจ.วรรณ ประเดิมกองทุนไทยกองแรกเทรดตลาดหุ้นสิงคโปร์วันนี้ คาดเงินสะพัดลงทุนดันสินทรัพย์โตอีก 180 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีแตะ 1,000 ล้านบาท

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ (5 เม.ย. 60) บริษัทได้นำกองทุน ONE STOXX ASEAN ซึ่งเป็นกองทุน ETF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์อย่างเป็นทางการเป็นวันแรก โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขาย คือ CFN

สำหรับราคาหน่วยลงทุนที่ทำการซื้อขายจะยึดจากราคาหน่วยลงทุนของวันที่ 4เมษายน โดยราคาล่าสุด ณ วันที่ 3 เมษายนอยู่ที่ 2.9172 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขายเปรียบเสมือนหลักทรัพย์ 1 ตัวในตลาดหุ้นสิคโปร์ โดยมี Flow Traders Asia, Philip Securities และ Commerzbank ทำหน้าที่ Maker ดูแลสภาพคล่องการซื้อขาย และซื้อขายในสกุลเงินดอลล์สหรัฐ ซึ่งมีหน่วยซื้อขายขั้นต่ำ 100 หน่วย

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุนไทยกองทุนแรกที่เข้าไปจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยซื้อ-ขายหลักทรัพย์เป็นสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่บริษัททำการเดินสายพบนักลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีทั้งสถาบันการเงิน วาณิชธนกิจภูมิภาค ธุรกิจหลักทรัพย์ให้ความสนใจและเชื่อว่ากองทุนดังกล่าวมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต เพราะหลักทรัพย์ที่กองทุนเลือกลงทุนจะเป็นหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพที่ดีสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูง โดยเฉพาะนักลงทุนจากเอเชียเหนืออย่างฮ่องกง และไต้หวันที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

“ตอนนี้มีนักลงทุนให้ความสนใจและคาดว่าหลังจากเปิดซื้อขายแล้วมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ หรือ 180 ล้านบาท ซึ่งถ้ารวมกับกองทุนรวมในไทยก็จะอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้เราเชื่อว่าขนาดของทั้งสองกองรวมกันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ที่สำคัญจะอยู่ที่การเพิ่มนักลงทุนหลังจากเข้าเทรด ซึ่งเราก็สามารถเข้าหาและนำผลดำเนินงานกองไปเสนอกับสถาบันได้ง่ายขึ้น”

นายพจน์กล่าวอีกว่า กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภท INDEX Fund มีนโยบายการลงทุนในหุ้นดัชนี STOXX ASEAN Select Dividend 30 ซึ่งมีอัตราการจ่ายปันผลและมีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนภูมิภาคอาเซียนจำนวน 30 บริษัท ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย เพื่อสร้างผลตอบแทนตามดัชนี STOXX ASEAN Select Dividend 30

โดยปัจจุบันอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในประเทศภูมิภาคอาเซียน ทั้ง อินโดนีเซีย 3% มาเลเซีย 3.2% ฟิลิปปินส์ 2.6% สิงคโปร์ 3.7% เวียดนาม 4.3% และไทย 3.8% โดยในช่วงเฉลี่ยกว่า 10 ปีที่ผ่านมา หากเทียบสัดส่วนอัตราการจ่ายเงินปันผล พบว่าประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม และไทย มีสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าภูมิภาคยุโรปที่ระดับ 3.5%

ทั้งนี้ ดัชนีจะมีการทบทวนใหม่ทุกไตรมาส และหุ้นส่วนใหญ่ที่เลือกลงทุนจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นหลัก พร้อมกระจายไปยังหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ส่วนหุ้นไทยจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มโรงกลั่น อย่างหุ้น KK หุ้น PS หุ้น SIRI หุ้น LPN หุ้น SPRC

นายเชอร์ โลว์ กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าส่วนงานภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัท STOXX จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะผู้บริหารดัชนี STOXX มีความยินดีได้ร่วมมือกับ บลจ.วรรณ ในการนำดัชนี STOXX มาพัฒนาเป็นกองทุน ETF กองทุนแรกภายใต้โครงการ ASEN CIS ในประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังเป็นกองทุนแรกที่เลือกใช้กลยุทธ์ Smart-beta ในภูมิภาค สำหรับดัชนี STOXX ASEAN Select Dividend 30 จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเครื่องมือเพื่อลงทุนในตลาดหุ้นและเป็นส่วนหนึ่งเพื่อรองรับผู้ลงทุนที่แสวงหาโอกาสการลงทุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนที่ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในโลก และต้องการหาผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลของบริษัทระดับชั้นนำ 30 อันดับแรกในภูมิภาคอาเซียน
กำลังโหลดความคิดเห็น