เมืองไทยประกันชีวิตควงไทยประกันชีวิต ผนึกธนาคารอิสลามสานต่อตะกาฟุลรวมใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของชาวมุสลิม เพื่อการออมเงิน และสร้างความมั่นคงวัยเกษียณ “สาระ ล่ำซำ” ชู 2 แบบประกันคุ้มครองและออมเงินระยะยาว ด้าน “วรางค์ ไชยวรรณ” ระบุเป็นแบบประกันที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กล่าวว่า “เราต้องยอมรับสภาวการณ์แข่งขันของธุรกิจธนาคารมีการแข่งขันกันอย่างสูง และจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ถึงแม้ธนาคารจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจทางด้านตะกาฟุล (ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตามหลักศาสนาอิสลาม) สู่การเป็นผู้นำในปัจจุบัน ก็ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาทั้งด้านบุคลากรภายในองค์กร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชนทั้งชาวไทยมุสลิม และทุกศาสนิกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิต ผมเล็งเห็นความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นปัจจัยในชีวิตอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการออมเงิน การสร้างความมั่นคงเมื่อวัยเกษียณ หรือเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นทรัพย์สินให้แก่ลูกหลานต่อไปในอนาคต”
“จากความสำเร็จของโครงการ “ตะกาฟุลร่วมใจเพื่อ IBank” ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีพนักงานของธนาคารทั้งในสำนักงานใหญ่ และสาขา ให้ความสนใจและกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ทำให้เงินสมทบบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสำหรับปีนี้โครงการ “รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล” เรายังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอันดีของธนาคาร ทั้ง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนเราในด้านผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง และโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวของเราที่จะพลิกสถานการณ์ทางธุรกิจ และเรามั่นใจในศักยภาพของพนักงานทุกคนเช่นกัน การเริ่มโครงการนี้อย่างต่อเนื่องก็เสมือนเป็นสนามให้พนักงานได้ลองปฏิบัติ และเป็นการพัฒนาสิ่งต่างๆ รอบด้านตัวเราเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้” นายชัยวัฒน์กล่าว
นายสาระ ล่ำซำ เปิดเผยว่า “บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตขอบคุณทางธนาคารฯ ที่ได้ให้บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ “รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล” อีกครั้ง จากครั้งก่อนคือโครงการ “ตะกาฟุลร่วมใจเพื่อ IBank” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทางบริษัทฯ ก็ยังยึดมั่นในนโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)” และให้ความสำคัญในการนำเสนอสิ่งที่เราห่วงใยให้กับพี่น้องชาวมุสลิมและประชาชนทั่วไป โดยผ่านผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลของบริษัทฯ ซึ่งเรามีบอร์ดเมืองไทยชะรีอะห์ที่ให้คำปรึกษาในด้านหลักการศาสนาที่ถูกต้องและโปร่งใส ซึ่งโครงการในปีนี้เรานำ “ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล 10/4” ที่มีจุดเด่นที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว 10 ปี แต่ชำระเงินสมทบตะกาฟุลระยะสั้นเพียง 4 ปี โดยมีเงินหลักประกันตะกาฟุลขั้นต่ำที่ 20,000 บาท สมัครได้ง่ายโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนชีวิตและออมเงินระยะยาว “ตะกาฟุลออมทรัพย์ 20/15” เน้นการออมเงินระยะยาวด้วยจำนวนเงินสมทบตะกาฟุลที่ไม่สูงมากนัก พร้อมความคุ้มครองชีวิตถึง 20 ปี แต่ชำระเงินสมทบตะกาฟุล 15 ปี เพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ครอบครัว
“เราเน้นย้ำด้านการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ผ่านตัวแทนคุณภาพและสำนักงานบริการสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีระบบการทำงานที่ทันสมัย ให้บริการด้วยความรวดเร็ว และมีความเป็นมืออาชีพ ที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณสูงสุด รวมถึงมีกิจกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าตามไลฟ์สไตล์ผ่านเมืองไทย Smile Club ที่คัดสรรกิจกรรมแห่งความสุขมอบให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการให้บริการผ่าน Call Center 1766 ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย” นายสาระกล่าว
ด้าน นางวรางค์ ไชยวรรณ เปิดเผยว่า “ไทยประกันชีวิตและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง โครงการ “รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไทยประกันชีวิตได้รับเกียรติให้มีส่วนร่วมสนับสนุนเพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่พี่น้องชาวมุสลิม ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ถูกต้องตามหลักศาสนา ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการชารีอะห์ไทยประกันชีวิต ซึ่งประกอบด้วย แบบเตาฟี๊ดร์ 10/5 สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้น เพราะชำระเงินสมทบตะกาฟุลเพียง 5 ปี แต่ได้รับฮิบะห์สูงถึง 500% ของเงินหลักประกันตะกาฟุลเมื่อครบกำหนดสัญญา นอกจากนี้ ในระหว่างสัญญายังได้รับฮิบะห์ 10% ทุกๆ ปี สมัครได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพหรือแถลงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ส่วนแบบตะฮ์ซีน 20/20 เหมาะสำหรับพี่น้องมุสลิมที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวในระยะยาว โดยครบสัญญารับฮิบะห์ 110% ของเงินหลักประกันตะกาฟุล”
“ไทยประกันชีวิตมุ่งพัฒนาบริการที่มากกว่าและแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ลูกค้า รวมถึงมีสาขาและศูนย์บริการลูกค้าพร้อมให้บริการมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งไทยประกันชีวิตยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ดูแลพี่น้องมุสลิม รวมถึงขอบคุณผู้บริหารธนาคารอิสลามฯ ที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการครั้งนี้” นางวรางค์กล่าวทิ้งท้าย