xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กสิกรไทยโชว์จ่ายปันผลกองทุน K-VALUE รวมกว่า 189 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยเผย “กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE)” ผลการดำเนินงานเข้าเป้า อวด Dividend Yield 13.23% ต่อปี ผู้ถือหน่วยลงทุนเฮรับวันวาเลนไทน์ เตรียมจ่ายเงินปันผลรวมกว่า 189 ล้านบาทในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) ในอัตรา 0.60 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559-31 มกราคม 2560 โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 189.62 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน K-VALUE ที่ผ่านมา นางสาวธิดาศิริกล่าวว่า หากนับรวมการจ่ายปันผลในครั้งนี้ด้วย กองทุนมีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 21 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 9.30 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลดำเนินงาน 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ก.พ. 59-31 ม.ค. 60) กองทุนมีการจ่ายปันผล 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.90 บาทต่อหน่วย หรือสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 13.23% ต่อปี ขณะที่กองทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน และ 1 ปีอยู่ที่ 3.58% และ 24.36% ตามลำดับ โดยสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 3.49% และ 21.24% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 31 ม.ค. 60) ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนใช้กลยุทธ์เน้นการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยังเป็นปัจจัยบวกในระยะกลางถึงยาว รวมทั้งหุ้นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบมากในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จึงทำให้กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้เป็นที่น่าพอใจ

“สำหรับมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญกับความเสี่ยงจากเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าสหรัฐฯ แต่ด้วยเศรษฐกิจไทยที่ยังสามารถฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องและฐานะการเงินของประเทศที่แข็งแกร่ง ทำให้ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมีค่อนข้างจำกัด อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากรัฐบาลที่ยังคงดำเนินนโยบายลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานตามแผนต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขภาคการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลง คาดว่ารัฐบาลจะยังคงพยายามประคองเศรษฐกิจด้วยการสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตามองคือ การดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์ เนื่องจากอาจส่งผลถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อัตราเงินเฟ้อ และการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าออกของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนโยบายทางการค้าที่อาจส่งผลต่อภาคการส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทยด้วย ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2560 อยู่ที่ 1,690 จุด” นางสาวธิดาศิริกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น