“เมืองไทยประกันภัย” เผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก ปี 2559 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,980 ล้านบาท และมีกำไรสูงถึง 209 ล้านบาท โดยได้มีการอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 6.30 บาท
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก ปี 2559 บริษัทฯ มีผลประกอบการประจำไตรมาสแรก โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 2,980.45 ล้านบาท และส่งผลให้มีกำไรสุทธิสูงถึง 209.89 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นกว่า 14.40% ทั้งนี้แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์อยู่ที่ 1,623 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยอื่นอยู่ที่ 1,357 ล้านบาท
สำหรับกำไรจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ประจำปี 2559 บริษัทฯ มีผลกำไรอยู่ที่ 209.89 ล้านบาท เป็นผลมาจากกำไรจากเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 120.44 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 89.45 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ 753.60 ล้านบาท ตราสารหนี้ภาคเอกชน 2,264.20 ล้านบาท ตราสารทุน 1,115.50 ล้านบาท กองทุนรวม 2,204.70 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ 6.1 ล้านบาท
ในส่วนของเงินกองทุน บริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR ratio) เพิ่มสูงขึ้นเป็น 404.71% อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนนโยบายด้านการบริการประกันภัยรถยนต์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพการบริการสินไหมรถยนต์เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประกันภัยรถยนต์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 8/2559 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น จากผลการดำเนินงานสำหรับปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 6.30 บาท รวมเป็นเงิน 371.70 ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2559
