xs
xsm
sm
md
lg

SCBAM ชูศักยภาพกอง “TRUEIF” เปลี่ยนชื่อเป็น “DIF” สอดรับการลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
บลจ.ไทยพาณิชย์เผยรับอนุมัติ ก.ล.ต. เปลี่ยนชื่อกอง TRUEIF เป็น “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล” หรือ “DIF” ให้สอดรับกลยุทธ์การลงทุนและการเติบโต

นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUE Telecommunications Growth Infrastructure Fund) หรือ TRUEIF ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แก้ไขเปลี่ยนชื่อกองทุนเป็น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (Digital Telecommunications Infrastructure Fund) ภายใต้ชื่อย่อกองทุน DIF โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเปลี่ยนชื่อกองทุนเป็น DIF มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชื่อของกองทุนได้สะท้อนให้ผู้ลงทุนเห็นถึงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของรายได้ให้กองทุนจากการหาผู้เช่าทรัพย์สินรายอื่นเพื่อมาเช่าทรัพย์สินที่กองทุนเป็นเจ้าของอยู่ในขณะนี้ที่นอกเหนือจากกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เช่ารายแรกเมื่อเริ่มก่อตั้งกองทุน รวมทั้งกองทุน DIF ยังมีแผนการลงทุนในอนาคตด้วยการซื้อทรัพย์สินโทรคมนาคมจากเจ้าของทรัพย์สินรายอื่นนอกเหนือจากกลุ่มทรูด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน การวางกลยุทธ์ของกองทุน DIF ในการหาผู้เช่าทรัพย์สินร่วมยังถือเป็นการตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายแรกคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และเพียงพอต่อการใช้งาน อีกทั้งยังสนับสนุนให้มีการใช้งานร่วมกันโดยเฉพาะเครือข่ายใยแก้วนำแสงและเสาโทรคมนาคมเพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อน

นายสมิทธ์ ยังกล่าวว่า เป้าหมายหลักของบริษัทฯ ในฐานะบริษัทจัดการกองทุน คือการมุ่งเน้นในการสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value) ต่อหน่วยของกองทุน รวมถึงโอกาสในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับในระยะยาวแล้วกองทุนยังแสวงหาโอกาสเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าในเชิงกลยุทธ์สำหรับการใช้ทรัพย์สินโทรคมนาคมร่วมกันได้ และจะเป็นการเปิดกว้างให้ผู้เช่าและเจ้าของทรัพย์สินรายอื่นให้เข้ามาลงทุนในกองทุนอีกด้วย

“นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 กองทุนได้มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.4099 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อยู่ที่ 71,934.012 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.3853 บาทต่อหน่วย นับเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม”


กำลังโหลดความคิดเห็น