บลจ.ธนชาตเชื่อลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวดีกว่าเพราะดอกเบี้ยอาจปรับลดหากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัด พร้อมส่งกองทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี (T-Fixed3YR6) เสนอขายระหว่างวันที่ 22-27 กรกฎาคมนี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด ให้ความเห็นว่า การที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นผลมาจากปัจจัยลบที่รุมเร้าทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยแล้งที่นอกจากจะกระทบภาคการเกษตรแล้ว ยังกระทบการบริโภคภาคครัวเรือนด้วย และความผันผวนของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ก็ยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยซบเซาลงมาก แม้จะมีปัจจัยบวกอย่างวิกฤตหนี้กรีซที่คลี่คลายไปในระดับหนึ่งหลัง ECB ประกาศขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กรีซอีก 900 ล้านยูโร ส่งผลให้ธนาคารกรีซสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งก็ตาม
บลจ.ธนชาตเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงใช้มาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายโดยการคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป และหากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อเนื่องก็มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยได้ และแม้ว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนกังวลว่าจะกดดันให้ไทยต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามนั้น ก็ยังมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังทำได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้น ในช่วงนี้ บลจ.ธนชาตจึงแนะนำให้ลงทุนตราสารหนี้ที่มีอายุตราสารค่อนข้างยาวเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า
“เราลองทำแบบจำลองพอร์ตลงทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี กับกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน และเงินฝากประจำ 6 เดือน เพื่อดูผลตอบแทนในอีก 3 ปีข้างหน้า พบว่า ถ้าสมมติฐานผลตอบแทนกองทุนอยู่ที่ 3.0% ต่อปี แล้วทางแบงก์ชาติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไม่เกินปีละ 1% การลงทุนในตราสารหนี้ 3 ปี ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า”
ในจังหวะที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและอาจมีแนวโน้มปรับตัวลดลง บลจ.ธนชาตจึงขอเสนอกองทุน T-Fixed3YR6 กองทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารหนี้ระยะยาว 3 ปี และต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เสนอขายระหว่าง 22-27 กรกฎาคมนี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด ให้ความเห็นว่า การที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นผลมาจากปัจจัยลบที่รุมเร้าทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยแล้งที่นอกจากจะกระทบภาคการเกษตรแล้ว ยังกระทบการบริโภคภาคครัวเรือนด้วย และความผันผวนของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ก็ยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยซบเซาลงมาก แม้จะมีปัจจัยบวกอย่างวิกฤตหนี้กรีซที่คลี่คลายไปในระดับหนึ่งหลัง ECB ประกาศขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กรีซอีก 900 ล้านยูโร ส่งผลให้ธนาคารกรีซสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งก็ตาม
บลจ.ธนชาตเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงใช้มาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายโดยการคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป และหากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อเนื่องก็มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยได้ และแม้ว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนกังวลว่าจะกดดันให้ไทยต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามนั้น ก็ยังมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังทำได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้น ในช่วงนี้ บลจ.ธนชาตจึงแนะนำให้ลงทุนตราสารหนี้ที่มีอายุตราสารค่อนข้างยาวเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า
“เราลองทำแบบจำลองพอร์ตลงทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี กับกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน และเงินฝากประจำ 6 เดือน เพื่อดูผลตอบแทนในอีก 3 ปีข้างหน้า พบว่า ถ้าสมมติฐานผลตอบแทนกองทุนอยู่ที่ 3.0% ต่อปี แล้วทางแบงก์ชาติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไม่เกินปีละ 1% การลงทุนในตราสารหนี้ 3 ปี ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า”
ในจังหวะที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและอาจมีแนวโน้มปรับตัวลดลง บลจ.ธนชาตจึงขอเสนอกองทุน T-Fixed3YR6 กองทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารหนี้ระยะยาว 3 ปี และต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เสนอขายระหว่าง 22-27 กรกฎาคมนี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท