xs
xsm
sm
md
lg

เล่นหุ้นก็เหมือนดนตรี ถ้าให้ดีต้องมีท่อนฮุก เปิดพอร์ตลงทุนสไตล์ “แมว-จิระศักดิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง
fund@manager.co.th
mgrfund@gmail.com
 
เจาะพอร์ตคนดัง ในครั้งนี้อยากจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับนักร้อง นักดนตรีมากความสามารถอย่าง แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้มีดีแค่การเล่นดนตรี แต่งเพลง หรือร้องเพลงเท่านั้น แต่เขาคนนี้ยังเป็นนักลงทุนที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงกระดานเขียว กระดานแดง อีกด้วย

แมว เริ่มต้นเล่าให้ทีมงานฟังว่า ผมเข้ามาลงทุนหุ้นครั้งแรกปี 2010 ที่เข้ามาลงทุนเพราะเรามองว่าอายุมากขึ้น เริ่มโตและมีลูก เราอยากจะมีอะไรให้ลูกบ้าง ผมเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 300,000 บาท ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ที่ชอบลงทุนหุ้นเพราะผมชอบเสี่ยงนะ ถ้าให้เปรียบการเล่นหุ้นก็เหมือนเล่นดนตรีร็อกแอนด์โรล

“ผมใช้เวลาศึกษามาหลายปีก่อนที่จะเริ่มเข้ามาลงทุน เริ่มแรกเลยฝึกเล่นหุ้นแบบจำลองของต่างประเทศก่อน ฝึกดูกราฟ การขึ้น-ลงมาจากอะไร ถ้าตั้งทาร์เกตแบบนี้จะเป็นอย่างไร และก็เริ่มเข้ามาลองฝึกของไทยคือ คลิกทูวิน และหลังจากนั้นก็พัฒนามาดูพื้นฐานหุ้นไปเรื่้อยๆ ทั้ง SET 50 SET 100 เป็นต้น โดยเงินที่เริ่มลงทุน 300,000 นั้นก็ลงทุนแบบ conservative ไปก่อน ตอนนั้นผมเชื่อว่าผมนี่เป็น VI เลยนะ ผมอยู่ในกลุ่มนี้ไม่ถึงปีก็พยายามองหาสไตล์การลงทุนที่แท้จริงของตัวเอง”

แมว เล่าต่ออีกว่า ปัจจุบันความเป็น VI ค่อยๆ ทยอยหายไป ถ้าตอนนี้จะให้นิยามตัวเองว่าเป็นนักลงทุนแบบไหน ตอบได้เลยว่าเป็นนักลงทุนแบบไฮบริด เน้นลงทุนระยะยาว มีแบบเทคนิคอล และผสมแบบ VI เล็กน้อย เช่น ปัจจุบันลงทุนแบบพื้นฐานดี แต่นักลงทุนที่เป็น VI มักจะไม่เล่น เช่น ซีพีออลล์ 20% ซีพีเอฟ 20% เป็นต้น ส่วนอีก 60% ที่เหลือจะเอาไว้ลงทุนแบบหุ้นร็อกแอนด์โรล ก็คือ หุ้นวิ่ง หุ้นพล่าน หรือหุ้นระยะสั้นนั่นเอง โดยใช้เทคนิคอลเข้ามาเป็นตัวช่วย

การลงทุนก็เหมือนการทำเพลง มันจะต้องมี Tension หรือคอร์ดที่มีความตึงเครียด ซึ่งมันจะมีความเข้มข้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดพีก หรือจุดไคลแมกซ์ ถ้าเปรียบง่ายๆ ก็คล้ายท่อนฮุก 1 แล้วก็ผ่อนลงมา แล้วก็ขึ้นท่อนฮุกรอบที่ 2 ถ้าหากเปรียบกับการลงทุนในหุ้นก็คือเมื่อหุ้นพีกขึ้นไปจุดหนึ่งก็จะมีการพักฐานและแน่นอนว่ามันก็จะมีการพีกขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าเราไม่โลภมากแค่ท่อนฮุก 2 ท่อนก็พอแล้ว 

ในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้น มักจะตั้งเป้าผลตอบแทนในส่วนของ 60% ที่ลงทุนแบบสไตล์ร็อกแอนด์โรลไว้ไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าเสียเวลา หรือค่าโชว์ตัวตามงานต่างๆ แต่ถ้าหากถามว่าได้ทุกวันไหม ก็ตอบว่ามันก็แล้วแต่ การลงทุนมันก็มีความเสี่ยงในตัวของมัน

“ปัจจุบันเงินในพอร์ตที่เคยลงทุนไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ได้เจริญเติบโตมาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเศษๆ โดยเงินส่วนนี้ได้มีการถูกดึงเอาไปซื้อรถยนต์แล้ว 1 คัน”

แมว ทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นแล้ว ก็ซื้อประกันไว้มากพอสมควร เรียกได้เลยว่าคนขายประกันไม่รู้จะเอาโปรดักต์อะไรมาเสนอขายอีก นอกจากความคุ้มครองที่เราได้รับจากประกันแล้วยังมีเรื่องของภาษีมาด้วย ส่วนการลงทนในรูปแบบอื่นๆ นั้นก็มองหาอยู่เช่นกัน แต่คงต้องขอใช้เวลาศึกษาก่อนให้มีความเข้าใจก่อนที่จะเข้าไปลงทุน



กำลังโหลดความคิดเห็น