คอลัมน์รวยด้วยรัก...รวยด้วยหุ้น …
โดย มนตรี ศรไพศาล
ผมได้มีโอกาสมาเที่ยวพักผ่อนประจำปีกับครอบครัวที่ญี่ปุ่น ได้เห็นคุณภาพคนญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะคนทำงานบริการ ทุกๆ จุดมีความน่าประทับใจ
ผมตกลงเช่ารถคันหนึ่ง จาก 9 โมงเช้า (3 โมงเช้า) ถึง 9 โมงเย็น (3 ทุ่ม) ครอบครัวเราประทับใจกับเขามาก เขาหัวเราะครื้นเครงตลอดเวลา เสียงหัวเราะก็ใกล้เคียงกับครอบครัวของเรา บอกเขาบอกว่ามื้อเที่ยงจะไปรับประทานราเมนที่ไกด์คนเก่งแนะนำให้ เขาก็หัวเราะ
นี่ถ้าเป็นคนอื่นหัวเราะ ครอบครัวเราอาจจะโกรธ คิดว่า “เยาะเย้ยเราหรือ? ที่ขอให้รถไปส่งร้านราเมน” แต่เสียงหัวเราะเขาดูจริงใจมาก เราก็เลยหัวเราะกับเขาไปอย่างสดชื่น
เราขอให้เขาพาไปที่อนุสาวรีย์กันดัม เขาก็หัวเราะ แล้วก็พาแวะไปวัดญี่ปุ่น เราก็ได้ยินคำว่า “กันดัมๆ” อยู่ แล้วเราโชว์รูปการ์ตูนกันดัมให้เขาดู เขาก็หัวเราะ แล้วก็พาเราไปเขาอุตส่าห์แถมสถานที่ท่องเที่ยวให้เราอีกหลายที่ในโตเกียว ทุกครั้งที่เราเสร็จ แทบไม่ต้องโทร.หา เขาจะรออยู่ในที่ที่นัดกันอยู่เสมอ จนเรางงว่าเขาได้รับประทานอาหารหรือยัง? เราไม่ต้องรอไม่ต้องหาเขาเลยสักครั้ง
เขามีความน่ารักจนลูกสาวผมต้องขอถ่ายรูปแบบเซลฟี่กับเขา ทั้งๆ ที่เขาคงมีอายุสัก 65 แล้ว!
เราอยากทิปให้เขาอีกนิดหน่อย ปรากฏเขาไม่รับ หัวเราะเช่นเคย แล้วก็ชี้มิเตอร์ ประมาณว่า คิดรวมในค่าบริการอยู่แล้ว “ไม่ต้องทิปก็ได้ครับ”
เราไปที่ตลาดปลาโตเกียว ก็ถือว่าเข้าใจคิด สถานที่ทำงานแท้ๆ ออกแบบให้มีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวและไปดูกันได้ และที่ประทับใจก็คือ หอยเชลล์ย่างสดๆ พวกเรายืนรับประทานกันอร่อยจริงๆ
ไปถึงร้านขายข้าวหน้าปลาดิบริมทาง ประเภทมีม่านพลาสติกใสห้อยรอบๆ ลดความหนาว เขาคอยแนะนำว่า เราต้องรับประทานอย่างไร เข้ามาช่วยเราถ่ายรูป พอเรารับประทานเสร็จ จะให้ทิปเขา เขาก็โบกมือไม่รับยิ้มๆ ก้มๆ ขอบคุณเราแบบน่ารักๆ แบบญี่ปุ่น ก็เป็นอีกความประทับใจ
เราไปเข้าแถวเช็กนกระเป๋าที่สนามบิน มีแถวยาวมาก ขณะที่เราแอบดูเจ้าหน้าที่บริการผู้เช็กนคนแล้วคนเล่า พนักงานก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ขยันอธิบาย สอบถาม และทำงานสำหรับบริการแต่ละคนๆ ไป ถึงเวลาของเราก็วุ่นวายมาก เพราะมี 5 คน และกระเป๋าหลายใบ เธอก็ดูแลอย่างอดทนยิ้มแย้ม
ผมได้แรงบันดาลใจหลายเรื่อง จากหลักการพระคัมภีร์ที่ส่งเสริมหัวใจบริการ ดังนี้
1. “การทำหน้าที่” คือความหมาย และเป็นความสุขของชีวิต ผมเชื่อในหลักที่พระเจ้าทรงสร้างเราอย่างมีความหมายบนโลกงดงามใบนี้ (ไม่ใช่ให้เกิดมาเพียงกินพื้นที่บนโลก) หน้าที่การงานสุจริตของเราคือ คุณค่า และความหมายที่เรามีบนโลกใบนี้ “เราทุกคนถูกสร้างมาให้เป็นดังอวัยวะของกายเดียวกัน”
... อวัยวะต่างกับ “มะเร็ง” คือ อวัยวะมีความแตกต่างกัน แต่ทำหน้าที่เพื่อกันและกัน
... แต่มะเร็ง ไม่สร้างอะไร ไม่ได้ให้อะไร แต่ “ดูด” อย่างเดียว
2. หลักธรรมสูงสุด คือ รักพระเจ้าสุดใจสุดจิต และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง มีผู้ถามพระเยซูว่า “ธรรมบัญญัติข้อใดใหญ่ที่สุด”
พระเยซูทรงตอบเขาว่า “‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของเจ้า ด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า’ นี่แหละเป็นพระบัญญัติข้อต้นและข้อใหญ่ ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’พระราชบัญญัติและคำพยากรณ์ทั้งสิ้นก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”
หากเราคิดเสมอว่า เมื่อเราทำหน้าที่บริการลูกค้า เราก็ทำให้ดีที่สุด ด้วยความรักเขาเหมือนกับรักตนเอง เมื่อเห็นผู้รับบริการพึงพอใจ เราก็มีความสุข การงานของเราก็จะก้าวหน้าอย่างดี
3. “ความถ่อม” คือ ความยิ่งใหญ่ พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า แต่ทรงมาประสูติในรางหญ้าด้วยความถ่อม ทรงล้างเท้าสาวกด้วยความถ่อม และหากเราทุกคนพร้อมที่จะถ่อมใจลง ให้เกียรติกันและกัน ชีวิตเราก็จะสูงขึ้นทางเดียวอย่างแน่นอน
ส่วนหนึ่งที่เป็นกำลังใจอย่างมากคือ อาหารเด็ดๆ ที่ได้รับประทานที่ญี่ปุ่นนั้น ที่เมืองไทยเราก็มีเหมือนกัน
... ร้านปูยักษ์ ฮอกไกโด ที่สุรวงศ์ ก็ไม่แพ้ปูยักษ์ย่านอาคารกูลิโกะ โอซากา
... ร้านย่างเนื้อที่ชั้น 6 อิเซตัน เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ใกล้เคียงร้านย่างเนื้อชั้นดีที่ญี่ปุ่น
... ร้านนาเบะโซ เมืองไทย ก็อร่อยไม่น้อยหน้าร้านนาเบะโซที่โตเกียว ฯลฯ
จึงไม่แปลกใจ ที่หลายๆ คนบอกว่าเมืองไทยเป็นดังสวรรค์ของการท่องเที่ยวใกล้เคียงญี่ปุ่น และเชื่อว่า ถ้าเราร่วมใจให้บริการด้วยความสัตย์ซื่อ ประเทศไทยก็จะมีรายได้การท่องเที่ยวที่เติบโตไม่หยุดครับ
และขอชื่นชมหน่วยงานไทย มีการโฆษณาท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี เชื่อว่าการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว และเศรษฐกิจไทยจะก้าวไกลยั่งยืนครับ
มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)
