กรุงเทพประกันชีวิตชี้ปีหน้าประกันชีวิตโต 10-15% ส่วนบริษัทจะโตกว่าตัวเลขเฉลี่ยของธุรกิจแน่ หลังปีนี้เบี้ยปีแรกต่ำเป้า 12,600 ล้านบาท เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว-การเมืองฉุด ย้ำที่ปรึกษาการเงินช่วยหนุนผลงานต่อ ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 750 ปีหน้า และ 1,000 คนในอีก 2 ปี
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในปีหน้าคงจะเติบโตได้ประมาณ 10-15% โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตเอาไว้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยยังมีความต้องการหลักประกันชีวิตอยู่อีกมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่มีอยู่
“ตอนนี้ประเทศไทยมีจำนวนถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่แค่ 32% จากประชากรทั้งหมด และเป็นประชากรนอกกรุงเทพฯ 26% ซึ่งไม่ใช่แค่นั้นเพราะในจำนวนนี้ยังมีบางส่วนที่ถือกรมธรรม์อยู่มากกว่าหนื่งฉบับอีกด้วย ทำให้โอกาสของธุรกิจประกันชีวิตยังมีอยู่อีกมาก”
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำเบี้ยปีแรกเพิ่มขึ้น30% หรือกว่า 9,300 ล้านบาท โดยมาจาก 3 ช่องทางการขาย ประกอบด้วย 1. ช่องทางแบงก์กรุงเทพ 83% ช่องทางตัวแทน 14% และช่องทางอื่นๆ อีก 3%
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าเบี้ยประกันปีแรกน่าจะต่ำกว่าเป้า 12,300 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาการเมือง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจไม่ได้มีผลกระทบแค่ธุรกิจประกันชีวิตเท่านั้นแต่มีผลกระทบต่อทุกธุรกิจ ส่วนปัญหาการเมืองยังเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยากว่าจะมีผลลงเอยอย่างไร
นายโชน กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในปีหน้าบริษัทอาจมีการปรับพอร์ตเข้าซื้อหุ้นเป็นบางกลุ่มเพิ่มเติม หลังจากที่ราคามีการปรับลดลงมาพอสมควรแล้ว โดยปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สินการลงทุนประมาณ 162,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ 64% หุ้นกู้เอกชน 22% หุ้น 8% หน่วยลงทุน 3% และเงินให้กู้ยืม 2%
ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดว่าจะได้รับสำหรับปี 2556 จะอยู่ที่ประมาณ 5% และในปีหน้าคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ในระดับเดียวกันคือ 5%
ด้านนายเรืองศักดิ์ ปัญญาบดีกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายการตลาด บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต กล่าวว่า กลยุทธ์ของบริษัทในปีหน้ายังคงเน้นการสร้างความมั่นคงให้แก่คนไทย จากการวางของที่ปรึกษาทางการเงินที่บริษัทสร้างขึ้นมา โดยลูกค้าจะสามารถเลือกสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้จากผลิตภัณฑ์ของทั้ง 3 บริษัทที่อยู่ในความร่วมมือ ทั้งประกันชีวิต ประกันภัย และกองทุนรวม
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนที่มีคุณสมบัติเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ได้ถึง 1,000 คนในอีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนปีหน้าบริษัทตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนประเภทนี้ให้ได้ถึง 750 คน หลังจากในปีนี้บริษัทมีตัวแทนประเภทนี้แล้วถึง 500 คน
“ตัวแทนของเราจะต้องมีใบอนุญาตถึง 3 ใบเพื่อขายสินค้าได้อย่างครอบคลุม และสามารถวางแผนการเงินให้ลูกค้าได้ ซึ่งความร่วมมืออันดีของบริษัทกับแบงก์กรุงเทพ กรุงเทพประกันภัย และ บลจ.บัวหลวง น่าจะผลักดันให้แผนงานในปีหน้าของเราเป็นไปตามเป้าหมายได้”
