ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่สิ่งที่ไม่ควรจะขาดนั้นคือการ “ออมเงิน” ซึ่งการเริ่มต้นการเก็บออมก็ไม่ใช่เรื่องยากและมีหลายช่องทางให้เลือกใช้ บางคนถนัดเก็บเงินสดฝากไว้ในธนาคารได้รับดอกเบี้ยเล็กน้อยแต่ก็อุ่นใจ แต่บางคนถนัดที่จะนำเงินไปลงทุนแม้จะเสี่ยงแต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็หายเหนื่อย
ส่วนวิธีการเริ่มออมเงินอย่างง่ายๆ นั้นก็คือหัก 5-10% ของรายได้ ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับรายได้และค่าใช้จ่ายของแต่ละคน ลองเริ่มต้นกันดู และถามตัวเองเสมอๆว่าเงินเก็บที่มีเพียงพอแล้วหรือยัง...
สำหรับคอลัมน์“เจาะพอร์ตคนดัง” ในสัปดาห์นี้จะพาไปเจาะลึกสไตล์การเก็บออมของ 3 นักล่าฝันทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 10 หรือ AF 10 กัน
เริ่มต้นที่ผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1ภูริวัชร์ ธีระชาติ หรือ ถังเบียร์ กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปีที่ 2
“ที่บ้านจะสอนผมเสมอว่าให้ใช้จ่ายอย่างจำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นหรือไม่สำคัญก็พยายามอย่าใช้ เวลาจะซื้อของหรืออะไรก็ตามต้องคำนึงถึงประโยชน์ให้มากที่สุด สิ่งนี้แม่จะสอนเสมอ สำหรับการเก็บออมของถังเบียร์จะเก็บในรูปแบบการฝากเงินในบัญชีมากกว่า และให้แม่เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการเงินให้”
เทม-เมธี ทับทิมทอง นักล่าฝันที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชา Performing Arts สถาบัน Kingston University (England)
“ช่วงนี้รายได้ที่เข้ามาผมจะเก็บเงินในบัญชีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคุณลุงของผมท่านพอมีความรู้เรื่องการลงทุน ก็จะคอยแนะนำเรื่องการกระจายการลงทุนให้ ตอนนี้ก็รอจังหวะที่จะลงทุนเหมือนกันแต่ยังไม่ค่อยมีเวลา เงินส่วนใหญ่จึงอยู่ในบัญชีไปก่อน ตัวตนผมจริงๆ เป็นคนประหยัดและสมถะไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรเท่าไร ตอนอยู่ที่อังกฤษก็เรียบง่ายโดยเฉพาะการแต่งตัว”
เทมบอกอีกว่า สิ่งที่อยากทำหลังจากนี้คือการช่วยเหลือสังคม คุณลุงกับคุณป้าของผมท่านจะสอนผมเสมอหากมีเวลาว่างและพอมีกำลังทรัพย์เราก็ควรที่จะแบ่งปันให้แก่สังคมบ้าง ซึ่งก่อนที่ผมจะเข้ามาประกวดก็มีโปรเจกต์ร่วมกับคุณลุงที่จะไปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ที่ต่างจังหวัด พอดีเข้ามาประกวดที่ AF ก่อน แต่ถ้ามีเวลาว่างผมก็จะไปช่วยทำกิจกรรมให้แก่สังคม
มาต่อกันที่เต้ย-ธัญชนิต ศรีสมเพ็ชร นักล่าฝันที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 กำลังศึกษาที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการขับร้อง/ดนตรีสมัยนิยม ปีที่ 3
“การออมเงินของเต้ย นอกเหนือจะเก็บเงินในบัญชีแล้ว เต้ยจะซื้อทองคำเก็บไว้ด้วย ไอเดียนี้ได้มาจากคุณแม่ ซึ่งท่านเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนราคาทองแค่หลักพัน หลายปีผ่านไปราคาไปไกลถึงหลักหมื่น เงินรางวัลที่ได้มาหลังจากหักภาษีหมดแล้วก็นำไปซื้อทองมาเก็บไว้ ส่วนรายได้ส่วนอื่นๆ ที่เป็นเงินก้อนเต้ยก็จะเก็บเป็นทองเช่นกัน ที่ผ่านมาเต้ยไม่ค่อยได้ขอเงินที่บ้านเพราะเต้ยจะหางานพิเศษทำตลอด และรบกวนที่บ้านให้น้อยที่สุด ซึ่งรายได้ที่เข้ามาก่อนหน้านี้จึงหมดไปกับค่าหอพัก ค่ากิน ค่าเดินทาง เงินออมก็มีแต่ไม่มาก แต่หากได้เป็นเงินก้อนก็จะชอบซื้อทองที่สุด”
