สมาคม บลจ.และมอนิ่งสตาร์เผย เม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นเพิ่ม เชื่อเป็นนิมิตหมายที่ดีนักลงทุนเข้าใจการลงทุนเพิ่มขึ้น โชว์ผลงาน 9 เดือน AUM ทั้งอุตสาหกรรมกองทุนแตะ 2.8 ล้านล้านบาท คาดไตรมาส 4 เงินไหลเข้ากองทุน LTF-RMF อีก 20,000 ล้านบาท
นายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ AIMC และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีความเข้าใจการลงทุนในกองทุนรวมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความรู้ความเข้าใจการลงทุนกองทุนหุ้นจาก LTF-RMF และมองเห็นผลตอบแทนที่ได้รับทำให้นักลงทุนหลายรายเข้ามาลงทุนกองทุนรวมหุ้นที่ไม่ใช่เพียงแค่ LTF-RMF
นายเอกชัย จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สินสุทธิ หรือ AUM ทั้งอุตสาหกรรมสิ้นสุด 30 กันยายน 2556 อยู่ที่ 2.8 ล้านล้าน ซึ่งมีกองทุนรวมทั้งหมด 1,414 กองทุน โดยแบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารหนี้ 57% กองทุนรวมหุ้น 23% ส่วนที่เหลือจะเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมอื่นๆ อย่างไรก็ตาม AUM รวมของทั้งอุตสหกรรมนั้นได้รับผลกระทบในเรื่องของความผันผวนจากตลาดหลักทรัพย์และการดึงเงินออกจากกองทุนรวม
สำหรับภาพรวมของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure Fund คาดว่าจะมีการระดมทุนเพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยในปีนี้ AUM รวมอยู่ที่ 6.8 หมื่นล้าน และคาดว่าในไม่ช้า AUM จะแตะที่ 1 แสนล้าน
ด้านนายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลตอบแทนกองทุนในปีนี้ค่อนข้างผันผวน โดยเฉพาะกองทุนหุ้นไทยและกองทุนหุ้นต่างประเทศ โดยกองทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 2.61% ขณะที่กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.58% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET Index อยู่ที่ -0.63% ส่วนกองทุนหุ้น Global Equity ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.06%
ส่วนกองทุนทองคำในปีนี้ผลตอบแทนค่อนข้างผันผวน ขณะเดียวกันผลตอบแทนเฉลี่ยลบมากที่สุดถึง -18.7% เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการชะลอตัวของมาตราการ QE โดยในปีนี้มีเงินไหลออกจากกองทุนทองคำแล้ว 660 ล้านบาท
นายพีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนที่ได้รับความนิยมในปีนี้คือกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ หรือ Term Fund โดยมีเงินไหลเข้ามากกว่า 200,000 ล้านบาท ขณะที่กองทุนหุ้นไทยมีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนแล้วกว่า 45,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ กองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ามาแล้วกว่า 31,000 ล้านบาท อีก 14,000 ล้านบาทไหลเข้ากองทุนหุ้นขนาดใหญ่
ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์นั้น บลจ.ได้ทยอยเปิดขายไปแล้วในปีนี้กว่า 84 กองทุน หรือ 58,000 ล้านบาท โดย 80% หรือ 69 กองทุนจะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป้าหมายผลตอบแทนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 7-8% ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ต่างประเทศจะอยู่ที่ 14 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 6,000 ล้านบาท ในส่วนของกองทุนต่างประเทศ หรือ FIF นั้นนักลงทุนให้ความนิยมกองทุนหุ้นต่างประเทศในกลุ่ม Global Equity และกลุ่ม Asia Pacific ex-Japan Equity โดยมีเงินทุนไหลเข้ามาแล้วกว่า 5,700 ล้านบาท และ 2,500 ล้านบาทตามลำดับ สำหรับเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี LTF-RMF จะเห็นว่านักลงทุนเริ่มทยอยลงทุนมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่นักลงทุนเข้าใจการลงทุนมากขึ้น คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่ม 20,000 ล้านบาท