2 บลจ.โชว์บริหารกองทริกเกอร์เข้าเป้า “ทิสโก้” สุดปลื้มกอง “ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” กองที่ 14 สร้างผลตอบแทนเข้าเป้า 8% ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ด้าน บลจ.แอสเซทพลัสไม่น้อยหน้า “แอสเซทพลัสสตาร์ 5” สร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน ระบุเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วปีนี้ หนุนหุ้นไทยแนวโน้มสดใส
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 14 ซึ่งเป็นกองทาร์เกตฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% โดยจะเลิกกองทุนหากสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% และเสนอขายไปในช่วง 29 ส.ค.-3 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ณ วันที่ 19 ก.ย. 56 ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดย NAV อยู่ที่ 11.0617 บาท ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น นับเป็นอีกกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ที่สร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ และแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุนได้เป็นอย่างดี
“ช่วงที่เราเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 14 เป็นช่วงที่หุ้นไทยได้มีการปรับฐานลงมาค่อนข้างแรง เป็นผลจากความกังวลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบาย QE ของสหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจของไทย ซึ่งทิสโก้มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยดังกล่าวเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วสำหรับปีนี้ และจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในช่วงที่เหลือ อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นการย่อตัวของราคาหุ้นในช่วงดังกล่าวจึงน่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น เราจึงเสนอขายกองทุนดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วย ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดไว้ และสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% หลังจากเปิดขายกองทุนเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น”
ด้าน นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 5 (ASP-STARS5) ซึ่งตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน ซึ่งเปิดเสนอขายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนถึงเป้าหมายได้ก่อนกำหนด โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมามูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 10.9039 บาท โดยปรับผ่านจุดที่มีมูลค่า 10.90 บาท จากราคาเริ่มต้น 10.00 บาท และบริษัทฯ สามารถขายสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุนเป็นเงินสด ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามที่กำหนดไว้ในโครงการโดยใช้ระยะเวลาบริหารกองทุนประมาณ 7 เดือน ดังนั้น กองทุนจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายตามจำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือทั้งหมด ตามวันดังกล่าว
สำหรับกองทุน ASP-STARS5 เป็นหนึ่งใน Series กองทุน ASP-STARS ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และมีจุดเด่นที่ทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ บริหารการลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 จนถึง ณ วันที่ 12 กันยายน 2556 กองทุน ASP-STARS5 สามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 9.04% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 1.81% (ดัชนี MSCI All Country World Index 50% และ JPM Global Aggregate Bond Index
50% ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ลงทุน) ซึ่งทำให้กองทุน ASP-STARS5 มีผลตอบแทนชนะเกณฑ์มาตรฐานถึง 7.23%
ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยดัชนีติดลบ 7.68% จึงนับว่ากองทุน ASP-STARS5 เป็นทางเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน
นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ก.ย. 56 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 2 (ASP-STARS2) มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12.0708 บาท และสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนครั้งที่ 4 เป็นเงิน 0.50 บาท ต่อหน่วยลงทุน ทำให้กองทุน ASP-STARS2 นี้สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบันให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว 2 บาทต่อหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ กองทุน ASP-STARS2 เป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ 0-100% มีอายุโครงการ 18 เดือน และมีการทยอยทำกำไรด้วยวิธีรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวขึ้นทุกๆ 5% จากมูลค่าหน่วยลงทุน 10 บาท ทั้งนี้ กองทุนจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 14 ซึ่งเป็นกองทาร์เกตฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% โดยจะเลิกกองทุนหากสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% และเสนอขายไปในช่วง 29 ส.ค.-3 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ณ วันที่ 19 ก.ย. 56 ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดย NAV อยู่ที่ 11.0617 บาท ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น นับเป็นอีกกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ที่สร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ และแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุนได้เป็นอย่างดี
“ช่วงที่เราเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 14 เป็นช่วงที่หุ้นไทยได้มีการปรับฐานลงมาค่อนข้างแรง เป็นผลจากความกังวลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบาย QE ของสหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจของไทย ซึ่งทิสโก้มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยดังกล่าวเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วสำหรับปีนี้ และจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในช่วงที่เหลือ อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นการย่อตัวของราคาหุ้นในช่วงดังกล่าวจึงน่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น เราจึงเสนอขายกองทุนดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วย ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดไว้ และสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% หลังจากเปิดขายกองทุนเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น”
ด้าน นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 5 (ASP-STARS5) ซึ่งตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน ซึ่งเปิดเสนอขายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนถึงเป้าหมายได้ก่อนกำหนด โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมามูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 10.9039 บาท โดยปรับผ่านจุดที่มีมูลค่า 10.90 บาท จากราคาเริ่มต้น 10.00 บาท และบริษัทฯ สามารถขายสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุนเป็นเงินสด ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามที่กำหนดไว้ในโครงการโดยใช้ระยะเวลาบริหารกองทุนประมาณ 7 เดือน ดังนั้น กองทุนจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายตามจำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือทั้งหมด ตามวันดังกล่าว
สำหรับกองทุน ASP-STARS5 เป็นหนึ่งใน Series กองทุน ASP-STARS ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และมีจุดเด่นที่ทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ บริหารการลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 จนถึง ณ วันที่ 12 กันยายน 2556 กองทุน ASP-STARS5 สามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 9.04% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 1.81% (ดัชนี MSCI All Country World Index 50% และ JPM Global Aggregate Bond Index
50% ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ลงทุน) ซึ่งทำให้กองทุน ASP-STARS5 มีผลตอบแทนชนะเกณฑ์มาตรฐานถึง 7.23%
ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยดัชนีติดลบ 7.68% จึงนับว่ากองทุน ASP-STARS5 เป็นทางเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน
นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ก.ย. 56 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 2 (ASP-STARS2) มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12.0708 บาท และสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนครั้งที่ 4 เป็นเงิน 0.50 บาท ต่อหน่วยลงทุน ทำให้กองทุน ASP-STARS2 นี้สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบันให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว 2 บาทต่อหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ กองทุน ASP-STARS2 เป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ 0-100% มีอายุโครงการ 18 เดือน และมีการทยอยทำกำไรด้วยวิธีรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวขึ้นทุกๆ 5% จากมูลค่าหน่วยลงทุน 10 บาท ทั้งนี้ กองทุนจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556