โดย sabuysuk@gmail.com
ปัจจุบันนี้สังคมมีสิ่งยั่วยุให้เด็กๆ เป็นจำนวนมาก อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานมากขึ้น ส่งผลให้มีเวลาอยู่กับลูกๆ น้อยลง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงเลือกใช้วิธีการจ่ายเงินเพื่อซื้อของให้ลูกเป็นการทดแทนที่มีเวลาอยู่กับลูกน้อยลง ทำให้ลูกไม่รู้จักคุณค่าของเงินและใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยกันปลูกฝังนิสัยการออมและการใช้เงินอย่างรู้คุณค่าอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็กด้วย
คอลัมน์“เจาะพอร์ตคนดัง”ฉบับนี้จึงขอนำเสนอเด็กรุ่นใหม่ที่มากด้วยความสามารถอย่างหนุ่ม “เต๋า AF8-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” ที่เป็นคนใส่ใจในการออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย และเห็นคุณค่าของการออมเงินเป็นอย่างดี
เต๋าเริ่มบอกว่า ที่บ้านจะปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็กในเรื่องของการออมเงิน ถ้ามีเงินเหลือเก็บจากโรงเรียนก็ต้องนำมาหยอดกระปุก มันเป็นการฝึกวินัยที่ดีอย่างหนึ่ง พอเต็มแล้วที่บ้านจะนำไปฝากธนาคารให้ พอเราเห็นเงินในสมุดมันทำให้เราดีใจและตื่นเต้นกับเงินที่เราได้เก็บสะสมมา
ปัจจุบันรายได้ที่เข้ามา เต๋าจะให้คุณป้าช่วยดูแลให้ ทั้งบัญชีค่าใช้จ่าย และรายได้ที่เข้ามา สาเหุตที่ต้องให้คุณป้าดูแลให้เพราะเราต้องทำงานทุกวันจนไม่มีเวลาบริหาร อีกทั้งเรายังอายุน้อยอยู่ด้วย การให้ผู้ใหญ่เข้ามาดูแลให้จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าเราดูแลเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเก็บไว้ในรูปของการออมทรัพย์มากกว่าที่จะนำไปลงทุนอย่างอื่น
“การออมเงินเก็บเงินมันเป็นการช่วยเซฟทางการเงินให้กับเราได้ เมื่อเราต้องการลงทุนมันก็จะนำมาใช้ได้เลย หรือยามที่เราเจ็บไข้หรือคนที่บ้านป่วยเราก็มีเงินที่จะพาไปหาหมอ เราต้องไม่ละเลยที่จะออมเงิน”
เต๋าได้บอกเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ขอเก็บเงินไว้ก่อน เพื่อที่อนาคตเราคิดจะทำธุรกิจอะไรก็ตามจะได้มีเงินนำมาลงทุนได้เลย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไร เนื่องจากว่าเราเพิ่งเข้าวงการ เรายังต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้มากที่สุด และจะได้รู้ว่าเราชอบอะไรและอยากที่จะทำอะไร เพราะทุกวันสิ่งที่เข้ามันคือการเรียนรู้ที่ดี และเราก็พร้อมและเต็มใจที่จะเรียนรู้กับสิ่งที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้
ครั้งแรกของการทำงาน เต๋าบอกว่า ช่วงตอนมัธยมต้นเป็นกิจกรรมของโรงเรียนที่ไปเต้นโชว์ตามจังหวัด ได้เงินมาก็ไม่ได้มากในตอนนั้น แต่ด้วยความเป็นเด็กเราก็ว่ามากแล้วก็ภูมิใจมากดีใจมากที่เราสามารถหาเงินได้ในตอนนั้น
สำหรับผลงานปัจจุบัน เต๋ามีละครเรื่อง คู่ปรับสลับร่าง กับ“แพท-ณปภา” ทางผู้ใหญ่ได้เรียกเข้าไปคุยและได้รับโอกาส เราก็ตกลง ทางผู้ใหญ่ ทางผู้จัดก็ใจดีมาก เราก็ดีใจและทำเต็มที่ ถามว่ายากไหมก็ยากมาก เป็นละครเรื่องแรกเลยครับ ตอนแรกก็กดดัน แต่พอได้ทำงานถ่ายทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสนุกกับการทำงาน
ส่วนเรื่องภาพยนตร์ “ประโยคสัญญารัก” เล่นกับ “พี่หมิว-ลลิตา” ตอนแรกก็เกร็งมาก ไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุยกับพี่หมิวเท่าไหร่ แต่พอได้ร่วมงานกันจริงๆ พี่หมิวเป็นคนน่ารักมาก เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ถามว่ากดดันเรื่องรายได้ไหม คือเราไม่ได้มองที่ตัวเลข แต่เรามองว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้มากกว่า ฉากเลิฟซีนก็เขิน ตอนซีนแรกที่จะเข้าฉากก็ต้องกุ๊กกิ๊กกันแล้ว ก็เกร็งมาก แต่พอเริ่มสนิทกันมากขึ้นก็กล้าที่จะเล่นมากขึ้น
เมื่อว่างจากการทำงาน เต๋าบอกว่าจะชอบไปฟิตเนส หรืออยู่บ้านนอนพักผ่อนบ้าง เนื่องจากว่าเราทำงานเกือบทุกวันไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน ขณะเดียวกันก็จะชอบฟังเพลง ร้องเพลงเพื่อฝึกซ้อมให้ดีขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารักมาตลอด
สุดท้ายเต๋าฝากบอกว่า เราควรรู้จักประหยัด ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงานถ้าไม่จำเป็นก็ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพื่อเป็นการลดพลังงานและเวลาที่ต้องติดอยู่บนท้องถนน ขณะเดียวกันเด็กวัยรุ่นที่หารายได้เองยังไม่ได้ควรที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่หารายได้เสริมช่วงที่ไม่ได้เรียนหนังสือหรือช่วงปิดเทอมเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว อีกทั้งจะทำให้เราได้รู้ว่าเงินที่เราหาได้เองมันเหนื่อยยากขนาดไหน จะทำให้เราได้รู้คุณค่าของเงินด้วย
ชื่อเกิด เศรษฐพงศ์ เพียงพอ (เต๋า)
วันเกิด 3 พฤษภาคม 2533
การศึกษา ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงานปัจจุบัน ซีรีส์ Coffee Prince เวอร์ชันไทย
ละครเวที “เธอเท่านั้น สุนทราภรณ์เดอะมิวสิคัล”
ภาพยนตร์ “ประโยคสัญญารัก”
ละคร “คู่ปรับสลับร่าง”