สมาคมประกันวินาศภัยเตรียมเข้าร่วมประชุมกับสมาชิกและบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศคืบหน้าการจ่ายสินไหมน้ำท่วม เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องกัน หวังสิ้นเดือน ส.ค.นี้จ่ายสินไหมครบ
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมจะมีการหารือประชุมกันในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ กับสมาชิกและบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศเกี่ยวกับความคืบหน้าการจ่ายสินไหมน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดกรณีการฟ้องร้องกันขึ้น โดยการประชุมครั้งนี้มี 2 ประเด็น คือ เกี่ยวกับการรับสภาพค่าสินไหมจากบริษัทรับประกันภัยต่อ และการจ่ายค่าสินไหมบางส่วน
นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของ BI หรือประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักมีการตีความเงื่อนไข ยังคงต้องใช้เวลาหรือยังต้องดูรายละเอียดของรีอินชัวเรอร์ด้วยเพราะรายละเอียดมีมาก โดยทั้งระบบมีมูลค่าสินไหมประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท โดยทางสมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะจ่ายค่าสินไหมให้หมดภายในเดือนสิงหาคมนี้
“เราได้เก็บค่าสินไหมจากบริษัททั่วไปได้มาประมาณ 85% จากยอดสินไหมทั้งหมด 350,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรีอินชัวเรอร์เก็บได้แล้ว 70-80% ที่เหลือยังเรียกเก็บไม่ได้ ขณะที่รีอินชัวเรอร์ญี่ปุ่นยังเก็บได้ไม่ถึง 70%”
ล่าสุดสมาคมฯ ได้เข้าลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 51 บริษัทประกันวินาศภัยเพื่อเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจากการร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นจากผู้เอาประกันภัย และในระดับนานาประเทศได้อีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนั้นได้รับการสนับสนุนการจัดทำโดยรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยความร่วมมือจาก 7 องค์กรชั้นนำ ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ และบริษัทสมาชิกได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนภาครัฐและภาคเอกชนในการป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเต็มที่ จึงเชื่อมั่นว่าการลงนามเพื่อเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตนี้มีประโยชน์ทั้งต่อการดำเนินงาน และภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงธุรกิจประกันวินาศภัยและประเทศชาติ
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมจะมีการหารือประชุมกันในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ กับสมาชิกและบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศเกี่ยวกับความคืบหน้าการจ่ายสินไหมน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดกรณีการฟ้องร้องกันขึ้น โดยการประชุมครั้งนี้มี 2 ประเด็น คือ เกี่ยวกับการรับสภาพค่าสินไหมจากบริษัทรับประกันภัยต่อ และการจ่ายค่าสินไหมบางส่วน
นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของ BI หรือประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักมีการตีความเงื่อนไข ยังคงต้องใช้เวลาหรือยังต้องดูรายละเอียดของรีอินชัวเรอร์ด้วยเพราะรายละเอียดมีมาก โดยทั้งระบบมีมูลค่าสินไหมประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท โดยทางสมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะจ่ายค่าสินไหมให้หมดภายในเดือนสิงหาคมนี้
“เราได้เก็บค่าสินไหมจากบริษัททั่วไปได้มาประมาณ 85% จากยอดสินไหมทั้งหมด 350,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรีอินชัวเรอร์เก็บได้แล้ว 70-80% ที่เหลือยังเรียกเก็บไม่ได้ ขณะที่รีอินชัวเรอร์ญี่ปุ่นยังเก็บได้ไม่ถึง 70%”
ล่าสุดสมาคมฯ ได้เข้าลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 51 บริษัทประกันวินาศภัยเพื่อเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจากการร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นจากผู้เอาประกันภัย และในระดับนานาประเทศได้อีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนั้นได้รับการสนับสนุนการจัดทำโดยรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยความร่วมมือจาก 7 องค์กรชั้นนำ ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ และบริษัทสมาชิกได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนภาครัฐและภาคเอกชนในการป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเต็มที่ จึงเชื่อมั่นว่าการลงนามเพื่อเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตนี้มีประโยชน์ทั้งต่อการดำเนินงาน และภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงธุรกิจประกันวินาศภัยและประเทศชาติ
