บลจ.กสิกรไทย ชี้ประชุม กนง.3 เม.ย.นี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ดังเดิม ส่วนความกังวลค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น คาด ธปท.อาจจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา แนะนักลงทุนควรล็อกการลงทุนไว้ที่ตราสารหนี้ระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลงได้
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยต่อแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ว่า บริษัทฯ มองการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 เมษายนนี้น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ดังเดิม อย่างไรก็ดี จากความกังวลที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลง ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรล็อกการลงทุนไว้ที่ตราสารหนี้ระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลงได้
ล่าสุด บริษัทฯ จะเสนอกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีเอ็ม (KFF1YBM) ขนาดกองทุน 3,000 ล้านบาท ในวันที่ 26-29 มีนาคม 2556 โดยโอกาสรับผลตอบแทนในกองทุนดังกล่าวปรับตัวขึ้นเป็น 3.20% ต่อปี สูงขึ้นกว่าผลตอบแทนจากกองทุนประเภทเดียวกันที่เสนอขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดารับผลตอบแทนโดยไม่เสียภาษี
“ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่อัตราผลตอบแทนจากตราสารที่กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 1 ปีจะเข้าไปลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเล็กน้อย ในขณะที่โอกาสรับผลตอบแทนของกองทุน 3 เดือน และ 6 เดือนยังคงทรงตัว โดยตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีเอ็ม (KFF1YBM) จะเข้าไปลงทุนประกอบด้วย ตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้ (BBB+/Fitch) ตราสารหนี้ Banco Santander S.A., ประเทศบราซิล และ Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank ประเทศรัสเซีย ซึ่งทั้งคู่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ระดับ BBB ร่วมด้วยเงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) และเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน”
ทางด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ1Y6 (KFFIF1Y6) อายุประมาณ 1 ปี มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 15% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) สัดส่วนการลงทุน 15% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาขามาเก๊า, สาธารณรัฐประชาชนจีน) สัดส่วนการลงทุน 14%
ตราสารหนี้ ECP รับประกันโดยธนาคาร Sberbank of Russia (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ ECP รับประกันโดยธนาคารGazprombank OJSC (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Santander Brasil S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 10% และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคารBanco Itau Unibanco S.A สัดส่วนการลงทุน 6% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 1 เม.ย. 56
