นักวิเคราะห์กองทุนรวม ประเมินระยะยาวเศรษฐกิจจีนยังสดใส ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่เเพงเมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาคเดียวกัน พร้อมแนะนำให้ทยอยเก็บหุ้นจีนเข้าพอร์ตสำหรับการลงทุนระยะยาว
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กล่าวถึงการลงทุนในหุ้นจีนว่า เรามองระยะสั้นมีโอกาสผันผวนจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ราคาหุ้นจีนในเชิงเปรียบเทียบกับหุ้นเอเชียด้วยกันยังถือว่าไม่แพง มองเป็นจังหวะที่ดีในการสะสมกองทุนจีนเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยระยะสั้นตลาดหุ้นจีนยังคงมีความผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอก และนโยบายการเงินที่เข้มงวด
ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมา และแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของจีน ทำให้เรายังเชื่อมั่นการเติบโตในระยะยาว และราคาหุ้นไม่แพงในเชิงเปรียบเทียบกับตลาดภูมิภาคเดียวกัน แนะนำสะสมกองทุนหุ้นจีนสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยกองทุนที่แนะนำยังคงเป็น Asset Plus Hang Seng Index (ASP-HSI) ของบลจ. แอสเซ็ท พลัส และ Aberdeen China Gateway (ABCG) ของ บลจ. อเบอร์ดีน ทั้งนี้ เรายังคงสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นตามเดิม
สำหรับการลงทุนในทองคำนั้น ยังคงแนะนำนักลงทุนมีกองทุนทองคำในพอร์ตการลงทุน 10 -15% ของพอร์ต โดยมองระดับราคา1,550 - 1,600 US$/oz. เป็นจังหวะที่ดีสำหรับสะสมกองทุนทองคำเพิ่ม โดยกองทุนที่แนะนำยังคงเป็นกองทุน K-GOLD ของ บลจ. กสิกรไทย และกองทุน T-Goldbullion-H ของ บลจ. ธนชาต โดยทั้ง 2กองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่ราคาน้ำมันผันผวนค่อนข้างมาก เรายังคงคำแนะนำเพียงเก็งกำไรระยะสั้น แบบขึ้นขายลงซื้ออย่างระมัดระวัง สำหรับกองทุนน้ำมัน โดยมองแนวรับราคาน้ำมัน 90 US$/bbl
นอกจากนี้เรายังคงเน้นกองทุนตลาดเงินเพื่อโอกาสการเข้าสะสมกองทุนอื่นๆ เพื่อการลงทุนระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ การที่ FED ยังคงใช้มาตรการ QE อยู่ ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยเฉพาะ Global Bond ยังได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่อ่อนค่า แต่เรายังไม่เพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ค่าเงินจะผันผวน
สำหรับกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ประเภท Term Fund กองใหม่ๆให้อัตราผลตอบแทนไม่ต่างจากกองทุนตลาดเงินมากนัก และเมื่อเทียบกับสภาพคล่องที่ได้แล้ว เราแนะนำลงทุนในกองทุนตลาดเงินแทน โดยกองทุนที่แนะนำยังคงเป็น PCASH, FAM VF และ SCBTMFPLUS
