โดย sabuysuk@gmail.com
ถ้าเรารู้จักสอนลูกหลานให้ออมเงิน รู้จักใช้เงิน ตั้งแต่ยังเด็กเพื่อที่จะให้พวกเขาเหล่านั้นได้เป็นคนที่มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน รู้จักคุณค่าของเงิน ไปสู่ความมั่งคั่งต่อไปในอนาคต ซึ่ง “พ่อแม่” ต้องเป็นต้นแบบหรือเป็นตัวอย่างแก่ลูกๆ ถ้าอยากให้ลูกรู้จักอดออม วิธีง่ายที่สุดเริ่มได้โดยการสอนให้รู้จักหยอดกระปุกเป็นประจำทุกๆ วัน และสอนให้รู้จักคุณค่าของเงิน โดยปลูกฝังให้รู้ว่า “เงินทองเป็นของมีค่า” ไม่ได้มาง่ายๆ ซึ่งเราต้องมีการจัดสรรให้เป็นอย่างดีด้วย...
คอลัมน์“เจาะพอร์ตคนดัง” ฉบับนี้ ทีมงานได้เข้าไปสัมภาษณ์ นักแสดงสาวสวย อย่าง “แนท-เอวิตรา ศิระสาตร์” ที่พักหลังๆ มานี้ดูเธอจะห่างหายจากจอทีวีไปสักหน่อย ซึ่งมาในวันนี้เธอจะมาร่วมอัปเดตถึงผลงานปัจจุบันและวิธีการออมเงินการบริหารเงินว่าทำยังไงให้มีไว้ในในยามเกษียณอายุ
“แนท” เริ่มบอกว่า ตั้งแต่เด็กทำงานมาก็ไม่รู้ว่าเงินมีค่ามากเท่าไหร่ จนเริ่มโตขึ้นมาและรู้ว่าอาชีพเราไม่ค่อยมั่นคง บางครั้งงานก็เยอะ ได้เงินก็เยอะ และบางครั้งงานก็น้อย ซึ่งทำให้รายได้ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นแนทต้องมีการออมเงินมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ ซึ่งรายได้ที่เข้ามาก็จะนำมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลบ้าง และประกันชีวิตด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเราเอง เนื่องจากว่าเราทำงานตรงนี้สวัสดิการจะไม่มีเหมือนพนักงานบริษัท เราต้องคิดให้มากๆ เพื่อหาสิ่งที่ดีให้กับตัวเราเอง
“ต้องยอมรับว่าช่วงเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ อายุประมาณ 19-20 ปี เริ่มเล่นละครครั้งแรกมีรายได้เข้ามามากมาย และด้วยทำงานในวงการบันเทิงต้องซื้อเสื้อผ้า แต่งตัวให้ตัวเองดูดีก็จะหมดเงินไปกับสิ่งนี้ หลังจากนั้นเริ่มมีวิกฤตชีวิตกับตัวเอง เนื่องจากคุณแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มันทำให้ชีวิตเราต้องอยู่คนเดียว เพราะตอนหลังคุณแม่เสีย งานเริ่มน้อยลง และเริ่มเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น จึงใช้จ่ายอย่างประหยัด และเริ่มซื้อทองคำเก็บสะสมไว้ เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาว และตอนนั้นก็เริ่มซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ให้ตัวเอง 2 ที่ เพื่อสร้างความอุ่นใจและมั่้นคง อีกอย่างที่แนททำมาตลอดคือจะไม่ซื้อของเงินผ่อนเลย เพราะไม่อยากที่จะเสียดอกเบี้ย เช่น รถยนต์ แนทก็จะซื้อเป็นเงินสด”
ส่วนปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในบ้านเรา “แนท” บอกว่า แอบหวังไว้ในในว่าจะดีขึ้น น้ำมันก็แพง อีกทั้งนโยบายหลายๆ อย่างส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน เช่น เรื่องนโยบาย 300 บาท มันก็มีเรื่องของโรงงานที่ปิดไป ของก็แพงขึ้นซึ่งบางครั้งเราก็เจอมาบ้าง แต่ตัวเราอยู่ได้ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าให้คิดอีกมุ่มหนึ่งอีกหลายๆ คน ที่มีเงินไม่มากคงต้องลำบาก
“แนท” อยากจะแนะนำว่า ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ยิ่งข้าวของแพง แต่หลายคนก็ยังอยากที่จะซื้อสิ่้งของเพื่อให้ความสุขกับตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูลิมิตของตัวเองให้มันสมดุลกันด้วย ถ้าอยากมีเครื่องสำอางดีๆ กระเป๋าแพงๆ แต่ต้องอดข้าวแบบนี้ก็ไม่ไหว นอกจากนี้เราต้องมีเงินเก็บไว้บ้างเพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
สำหรับผลงานปัจจุบัน “แนท” เป็นพิธีกรช่องสบายดีทีวี และเป็นดีเจคลื่น 88.5 สบายดีเรดิโอ ซึ่งทั้งสองงานสอนให้เรากระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ต้องหาข้อมูลต่างๆ ในแต่ละวันเพื่อมานำเสนอคุณผู้ฟัง ซึ่งก็เป็นงานที่ชื่นชอบมาก แต่อย่างที่บอกว่างานที่ทำอยู่คอนข้างไม่แน่นอน เพราะเราไม่ใช่พนักงานประจำ ดังนั้นการจะใช้จ่ายก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วนวันว่างของ “แนท” ก็จะหาเวลาอ่านหนังสือบ้าง และตอนนี้ก็กำลังเรียนภาษามาเลเซียอยู่ เพื่อเป็นการรองรับ AEC ที่จะมาถึงนี้ หลายคนสงสัยทำไมไม่เลือกเรียนภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษ “แนท” มองว่าประเทศมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้าน การจะนำไปใช้น่าจะมีมากกว่า และตัวแนทเองก็มีความสนใจด้วย
สุดท้าย “แนท” ฝากบอกว่า การออมเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเราออมอย่างเดียวและไม่ใช้จ่ายอะไรเลยก็ไม่เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เงินก็ไม่สะพัด ดังนั้นเราต้องมีการใช้จ่ายบ้าง แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม และไม่เกินตัว สิ่งที่เป็นของฟุ่มเฟือยก็ควรยั่บยั้งไว้บ้าง
ชื่อ - นามสกุล เอวิตรา ศิระสาตร์
วันเดือนปีเกิด 30 มกราคม 2526
การศึกษา ปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์บัณฑิต สาขาศิลปการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงานปัจจุบัน พิธีกร ช่องสบายดีทีวี
ดีเจ คลื่น 88.5 สบายดีเรดิโอ
