xs
xsm
sm
md
lg

KTAM ลั่นยึดเบอร์ 3 ตั้งเป้า AUM โต 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทยตั้งเป้าสินทรัพย์รวมโต 20% จากกองทุนทุกประเภท พร้อมรักษามาร์เกตแชร์อันดับ 3 ของอุตสาหกรรมรวม ล่าสุดเตรียมออกกองทุนอีทีเอฟ และตั้งกองทุน Inflation-Linked Bond : ILB ระบุ เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชัดเจนดีขึ้น

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) 428,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากกองทุนรวมประเภทกำหนดอายุ กองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท เป็นหลัก ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12% เป็นอันดับที่ 3 ของอุตสาหกรรม

โดยในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าขยายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 516,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทจะยังคงออกกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์เพื่อรองรับเงินลงทุนของลูกค้าที่จะครบอายุ โดยจะมองหาตลาดการเงินใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี บนพื้นฐานความเสี่ยงที่ลูกค้าในแต่ละกลุ่มยอมรับได้

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายกองทุนอีทีเอฟที่อิงกับกลุ่มหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มอาหาร, กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มพาณิชย์ รวมทั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน การขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนหุ้นประเภททริกเกอร์ฟันด์ ในช่วงจังหวะและเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ แผนกลยุทธ์ในปี 2556 กองทุนรวมตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดให้อยู่ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรม กองทุนส่วนบุคคลจะขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงภาคเอกชน และกลุ่มลูกค้าของธนาคารมากขึ้น ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะรักษาฐานลูกค้าเดิมร่วมกับการเพิ่มสัดส่วนกองทุน Pool Fund และพัฒนาระบบทะเบียนของกองทุน ซึ่งในปัจจุบันบริษัทได้จัดตั้งฝ่ายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้นใหม่ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท 1 และเป็นผู้นำการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน

นายสมชัย กล่าวต่อว่า บลจ.กรุงไทยเตรียมจัดตั้งกองทุน Inflation-Linked Bond : ILB หรือพันธบัตรอ้างอิงเงินเฟ้อ ที่กระทรวงการคลังกำลังจะเปิดเสนอขาย ซึ่งเรามองว่าจะเป็นผลดีสำหรับนักลงทุนที่วางแผนที่จะเกษียณ โดยผลตอบแทนของพันธบัตรนั้นจะปรับตามเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากมาลงทุนในกองทุนดังกล่าวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือกลุ่มอียู ตลาดหุ้นทั่วโลกก็เริ่มที่จะทยอยปรับตัวดีขึ้น ในส่วนของตลาดหุ้นไทยเองนั้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก หลายคนอาจจะกังวลว่าเดือนกุมภาพันธ์จะมีกองทุน LTF ทยอยครบอายุปฏิทินการลงทุนจะมีการเทขายออกหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าจะมีเล็กน้อยและอาจจะไม่ส่งผลกระทบเท่าใดนัก เนื่องจากปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจของนักลงทุน สำหรับกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ บลจ.กรุงไทยมองไว้ประมาณ 1,575-1,300 จุด

นางสาวชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนส่วนบุคคล บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของ บลจ.กรุงไทยนั้นเราเตรียมจะเพิ่มทุนอีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ (TCIF) ซึ่งจะระดมทุนประมาณ 25,000 ล้านบาท โดยจะลงทุนเพิ่ม 5 โครงการ ได้เแก่ ตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ อาคารไซเบอร์เวิร์ลด โครงการยนตรกิจ สุรวงศ์ อาคาร 208 และแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดระดมทุนได้ในไตรมาสแรกนี้ ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ (TRIF) นั้นจะเพิ่มทุนประมาณ 25,000 ล้านบาทเช่นกัน จะลงทุนเพิ่มประมาณ 3 โครงการ ได้แก่ เอเชียทีค ศูนย์การค้าตะวันนา และพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ คาดว่าจะระดมทุนได้ในเร็วๆ นี้เช่นกัน สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรืออินฟราสตรักเจอร์ฟันด์นั้น ทาง บลจ.ก็เตรียมโครงการอยู่ โดยคาดว่าจะระดมทุนได้ประมาณกลางปีนี้ โดยจะลงทุนในโรงไฟฟ้า

"ปีนี้น่าจะเป็นปีทองของกองทุนอสังหาฯ ซึ่งหลาย บลจ.ต่างทยอยเพิ่มทุน และออกกองทุนใหม่ เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายที่ใช้กฎเกณฑ์เดิม ซึ่งดีมานด์ของนักลงทุนก็มีเป็นจำนวนมาก ขณะที่การพูดคุยเรื่องของกอง REIT นั้นก็มีความคืบหน้าเช่นกัน"


กำลังโหลดความคิดเห็น