กรุงศรีส่งกองทุนลิงก์ทองคำ ชูจุดเด่นรับยิลด์ฝ่าราคาผันผวน

บลจ.กรุงศรีจับจังหวะราคาทองคำผันผวน ส่งกองทุนใหม่คุ้มครองเงินต้นลิงก์ผลตอบแทนกับราคาทองคำ ชูจุดเด่นรับยิลด์เพิ่มไม่ว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นหรือลง เปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 15 สิงหาคมนี้

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนใหม่กรุงศรีโกลด์ลิงค์คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 18M3 ในระหว่างวันที่ 8-15 สิงหาคมนี้ โดยมีนโยบายลงทุน 95% ในตราสารหนี้ไทยและตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และอีก 5% จะลงทุนในสัญญาออปชันที่ให้ผลตอบแทนระหว่าง 0-15% โดยอ้างอิงจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหน่วยลงทุน SPDR Gold Trust (กองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในทองคำ)

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อครบอายุกองทุน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนทุกรอบ 6 เดือนจากการคำนวณส่วนต่างของราคาทอง ณ วันตรวจสอบและวันเริ่มต้น แล้วนำมาเฉลี่ยเป็นผลตอบแทน 6 เดือน โดยแบ่งออกเป็น 3 กรณีคื อ กรณีแรก รับผลตอบแทน 0.01-5% กรณีที่ราคาทองปรับเพิ่มหรือลดไม่เกิน 15%

กรณีที่ 2 รับผลตอบแทน 0.60% กรณีที่ราคาทองปรับเพิ่มหรือลดเกินกว่า 15% และกรณีที่ 3 จะไม่ได้รับผลตอบแทนกรณีที่ราคาทองไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย เนื่องจากกองทุนได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนในส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

นายฉัตรพี กล่าวอีกว่า แนวโน้มราคาทองคำในอีก 18 เดือนข้างหน้ายังคงผันผวน แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาปรับขึ้นด้วยเช่นกัน แต่คงไม่เกิน 15% เนื่องจากราคาทองคำปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงมากแล้ว โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.24% และ 14.73% จากปี 2010 และปี 2011 ตามลำดับ จึงเป็นไปได้ยากที่ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวสวนทางกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งบริษัทฯ มีมุมมองว่าในอีก 18 เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวดีขึ้นส่งผลให้มีการถือครองทองคำน้อยลงด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำคงปรับลดลงไม่เกิน 15% เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาราคาทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน เพราะนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ อิตาลี และสเปน แต่เมื่อความกังวลดังกล่าวผ่อนคลายลงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง

อีกทั้งการปรับลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นภายในปี 2013 อาจส่งผลให้ FED ต้องดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มอุปทานของเงินดอลลาร์ และอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงและส่งผลให้ราคาทองคำปรับเพิ่มสูงขึ้น