คอลัมน์ money guru
โดยเศรษฐา ปวีณอภิชาต
ฝ่ายตราสารทุน
บลจ.เอ็มเอฟซี
เทคนิควิธีการลงทุนเพื่อให้ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นมีมากมาย คนที่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านั้นมีทั้งประสบความสำเร็จและไม่สำเร็จ ผมเพียงสงสัยว่าทำไมไม่มีใครให้คำแนะนำวิธีการลงทุนเพื่อให้ขาดทุน อาจเป็นเพราะว่านักลงทุนเป็นคนมีเหตุผลและมีจุดมุ่งหมายในการลงทุนที่ไม่ให้ขาดทุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีวิธีการลงทุนที่ให้ผลขาดทุนคงไม่มีใครทำตามแน่นอน แต่ผมอดสงสัยต่อไปไม่ได้ว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมยังคงมีนักลงทุนบางคนที่มีการลงทุนที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และต้องออกจากตลาดไปแล้วกลับเข้ามาใหม่วนเวียนอย่างนี้บ่อยครั้ง เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เขามีเทคนิค วิธีคิดอย่างไร วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันว่าเทคนิคเหล่านั้นคืออะไร เพื่อที่นักลงทุนท่านใดสนใจการลงทุนที่ขาดทุนจะได้นำไปปฏิบัติตามได้อย่างครบถ้วน
•โลภ: เป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากในการลงทุนที่ให้ผลขาดทุน นักลงทุนต้องมีความอยากได้ผลตอบแทนที่สูงๆและรวดเร็ว โดยไม่ต้องสนใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะถ้าได้กำไรก็ถือว่าการลงทุนประสบความสำเร็จ แหล่งที่มาของความโลภได้แก่ อยากได้กำไรมากๆ เห็นคนอื่นทำกำไรได้มากและได้มาอย่างง่ายๆ สบายๆ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้บ้าง
•อย่าเสียเวลา: เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจำเป็นต้องใช้เวลามากซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะการวิเคราะห์อย่างละเอียดไม่ได้บ่งบอกว่าลงทุนแล้วจะได้กำไร สิ่งที่สำคัญคือ ราคาหุ้น เราต้องติดตามราคาหุ้นอย่างใกล้ชิด เพราะราคาหุ้นจะสะท้อนปัจจัยทั้งหมดของข่าวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน
•อารมณ์: ปรับอารมณ์ไปพร้อมกับตลาดหุ้น ขาดสติ มีความกล้าอย่างบ้าบิ่น หากเกิดขาดทุนต้องเอาคืนให้เร็ว โดยลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อเอาส่วนที่หายไปคืนมา
•หูเบา: พูดง่ายๆคือ นักลงทุนต้องพร้อมตื่นตูมทุกสถานการณ์ ขี้ตกใจง่าย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษสำหรับนักลงทุนประเภทนี้ เพราะสมัยนี้ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หากคุณช้าเพียงเสี้ยววินาทีจะทำให้คุณพลาดโอกาส เมื่อได้ข่าวสารมาสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ซื้อหรือขายทันที เพราะข่าวนั้นจะมีผลกระทบกับราคาหุ้นอย่างรวดเร็ว จำไว้ “ถ้าช้า อาจพลาดโอกาส”
•ขายหุ้นที่มีกำไร กอดตัวขาดทุนไว้: เพราะการขายหุ้นที่ได้กำไรเป็นกำไรที่แท้จริง แต่การเก็บหุ้นที่ขาดทุนไว้ แล้วถ้าเราไม่ขาย เราก็จะไม่มีวันขาดทุนจริง นักลงทุนต้องมีความจำราคาหุ้นที่เคยอยู่สูงๆให้ได้ เพราะสักวันมันจะกลับไปที่เดิม กลยุทธ์: จงอดทนรอ แล้วรอ แล้วรอ แล้วก็รอ…… (ถ้าอยากจะขาดทุนจริงๆ ให้ดูข้อถัดไป)
•ซื้อไฮ (High-ดอย) ขายโลว์ (Low-จุดต่ำ): เราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาหุ้นถึงจุดยอดดอย (จุดสูงสุด) เป็นสิ่งที่ยากมากในการที่เราจะซื้อ ณ จุดนั้น ดังนั้นเราต้องรอจังหวะราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เมื่อราคาหุ้นเริ่มพักฐาน จึงเริ่มเข้าซื้อหุ้น เพราะหุ้นที่เพิ่มขึ้นมักมีข่าวดีเสมอและมักจะมีข่าวดีออกมากับหุ้นตัวนั้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีข่าวดีเมื่อไรรับรองหุ้นขึ้นต่อแน่นอน ราคาหุ้นจะเกิดโมเมนตัมในช่วงเวลานั้น ซึ่งนักลงทุนจะเกิดความมั่นใจและเข้ามาซื้อเพิ่มขึ้นจะผลักดันราคาหุ้นต่อ สำหรับเวลาขายนั้นง่ายมาก ให้รอจังหวะที่หุ้นตกหนักๆ หากตลาดไม่ฟื้นตัวก็ถึงเวลาขายเพราะว่านักลงทุนหมดศรัทธากับหุ้นตัวนั้นแล้ว
เมื่อเรารู้แล้วว่าวิธีการทำอย่างไรที่ให้ผลขาดทุน ถ้าเราเป็นคนมีเหตุผลเพียงพอเราคงไม่ทำตามวิธีการข้างต้น หวังว่าข้อเสนอแนะข้างต้นจะเป็นข้อเตือนสติให้กับนักลงทุน ถ้าเราสามารถที่จะลงทุนแล้วไม่ขาดทุน กำไรจะไปไหนเสีย จริงไหมครับ
ความคิดเห็นและข้อความต่างๆ ในบทความนี้เป็นทัศนะของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย