อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
กรรมการบริหาร
บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด
apiwut@riverorchid.com
www.orchidslingshot.com
ติดตามข้อคิดดีๆ ได้ที่ twitter@apiwutp
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายองค์กรได้ทำการทบทวนวิสัยทัศน์และเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปี 2555
หลังจากการทบทวนแล้ว ก็คงทำการสื่อสารวิสัยทัศน์และเป้าหมายใหม่ให้พนักงานทุกคนได้รับทราบ
ฟังดูแล้ว...ทุกอย่างน่าจะผ่านได้ด้วยดี แต่...
ผู้บริหารท่านหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยด้วย กลับรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าสี่เดือนผ่านไปเป้าหมายของทีมยังไม่ถึงไหน พอถามน้องๆ ในทีมว่าเข้าใจเป้าหมายหรือไม่ ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “เข้าใจ” แต่ทำไมยังเห็นทุกคนในทีมต่างเดินไปคนละทิศละทาง บางคนก็ดูเหมือนไม่มีแรงจูงใจในการทำงานเอาเสียเลย ....ทำอย่างไรดี?
ว่าไปแล้วปัญหาอย่างนี้ หลายครั้งเป็นผลมาจากการสื่อสารเป้าหมายที่ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพ
ผู้นำหลายคนมักสื่อสารให้พนักงานฟังด้วยการอธิบายว่า “เป้าหมายที่ต้องการคืออะไร” เท่านั้น
ปัญหาคือหลายอย่างที่จำเป็น...กลับขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนความเข้าใจในเป้าหมายที่มีร่วมกัน แนวทางในการไปให้ถึงเป้าหมาย รวมไปถึงความรู้สึก “ฮึกเหิม” ที่จะทำให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ด้วย
ดังนั้นการสื่อสารเป้าหมายที่ดี จึงควรมีองค์ประกอบครบถ้วนตามนี้
ข้อความที่สื่อต้องง่ายแต่มีความหมายลึกซึ้ง - เป้าหมายที่ถูกกำหนดขึ้นโดยมากมักมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่าแค่ “จุดหมายที่ต้องไปถึง” เป้าหมายส่วนมากมีความเชื่อมโยงกันกับสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจ กลยุทธ์ในระยะยาวขององค์กร ปัญหา โอกาสและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาและที่กำลังจะมาถึง ซึ่งความเชื่อมโยงต่างๆ เหล่านี้มักได้รับการสื่อสารอย่างดีในหมู่ผู้บริหารด้วยกัน แต่บ่อยครั้งกลับถูกละเลยเมื่อสื่อสารให้พนักงานทราบ ข้อมูลบางส่วนถูกตัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยเหตุผลง่ายๆ เช่น เป็นความลับ, ผู้บริหารมีเวลาน้อย, เป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นสำหรับพนักงาน เป็นต้น
การสื่อสารที่ดีจึงควรสื่อด้วยข้อความที่เข้าใจง่าย ด้วยภาษาสำหรับพนักงาน และที่สำคัญต้องบอกถึงความเชื่อมโยงของเป้าหมายที่กำลังจะไปให้ถึงกับเป้าหมายใหญ่ขององค์กรด้วย
ความเร้าใจของเป้าหมาย - การขึ้นไปบนเวทีแล้วสื่อสารกับพนักงานถึงเป้าหมายขององค์กร เป็นสิ่งที่ผู้บริหารหลายคนทำได้อย่างง่ายดาย แต่การพูดแล้วทำให้พนักงานเกิด “อารมณ์ร่วม” ไปกับเป้าหมายนั้นทำได้ยาก ผู้บริหารน้อยคนนักจะสามารถทำได้ดี
การสื่อสารเป้าหมายให้เร้าใจอาศัยองค์ประกอบสามสี่ประการด้วยกัน ได้แก่
แรงจูงใจ เกิดจากการเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการไปให้ถึงเป้าหมาย ประโยชน์ใกล้ตัวสำคัญกว่าประโยชน์ไกลตัว จงพูดถึงประโยชน์สำหรับพนักงานก่อนที่จะพูดถึงประโยชน์ขององค์กร จงพูดถึงประโยชน์ของลูกค้าก่อนที่จะพูดถึงประโยชน์ของชุมชน เป็นต้น
ความฮึกเหิม เริ่มต้นจากน้ำเสียง คำพูด และท่าทางการแสดงออกของผู้นำ หากผู้บริหารสามารถสื่อสารด้วยความมั่นใจ เสียงดังและหนักแน่น พลังนั้นก็จะถูกถ่ายทอดไปสู่ผู้ฟังด้วย ในทางกลับกัน หากผู้นำขาดทักษะในการพูดที่น่าสนใจ แม้เป้าหมายจะชัดเจนเพียงใดก็จะเป็นเป้าหมายที่ขาดพลัง
แนวทางในการบรรลุเป้าหมาย เป้าหมายที่ฟังดูน่าสนใจจะกลายเป็นเพียงความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ไปในทันที หากผู้นำไม่สามารถชี้ให้เห็นได้ว่าเป้าหมายดังกล่าวมีแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นได้จริง ยกตัวอย่างอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประกาศว่าสหรัฐอเมริกาจะส่งคนไปบนดวงจันทร์ เราต้องเข้าใจว่า ณ เวลานั้นเทคโนโลยีการส่งจรวดของอเมริกาไม่ต่างอะไรกับการจุดบั้งไฟบ้านเรา หากไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เป้าหมายเช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปในทันที
ตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จ บางครั้งการพูดถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อาจดูเหมือนไกลเกินฝัน หากผู้นำสามารถยกตัวอย่างความสำเร็จที่ใกล้เคียงกันให้เห็นได้ชัดเจน จะทำให้ความมุ่งมั่นที่จะบากบั่นฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จมีมากขึ้น
ลงทุนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย - ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกว่าคำพูด การที่องค์กรจะไปให้ถึงเป้าหมายได้นั้น ผู้บริหารต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงออกได้ดีผ่านการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาเพิ่มพูนทักษะเพื่อให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือและทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานให้เพียบพร้อม
อย่าลืมว่าการที่องค์กรจะสามารถดำรงอยู่ได้นั้น สิ่งสำคัญคือคนที่อยู่ภายในองค์กร องค์กรจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพนักงานภายในองค์กรด้วยเช่นกัน คนคนเดียวไม่สามารถทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ แต่ในขณะเดียวกันคนยิ่งมากการขับเคลื่อนให้ไปในทิศทางเดียวกันก็เป็นไปได้ยากยิ่งกว่า ดังนั้น เป้าหมายจึงเป็นเหมือนหลักให้ทุกคนในองค์กรได้ยึดเหนี่ยวให้สามารถเดินไปในทิศทางเดียวกันได้ การสื่อสารเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำไม่สามารถละเลยได้
โปรดอย่าแค่บอกพนักงานว่าองค์กรมีเป้าหมายอะไร แต่จงสื่อสารให้พนักงานเข้าใจและรู้สึกร่วมไปกับเป้าหมายนั้น
แล้วความสำเร็จ ก็คงอยู่ไม่ไกล...
กรรมการบริหาร
บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด
apiwut@riverorchid.com
www.orchidslingshot.com
ติดตามข้อคิดดีๆ ได้ที่ twitter@apiwutp
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายองค์กรได้ทำการทบทวนวิสัยทัศน์และเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปี 2555
หลังจากการทบทวนแล้ว ก็คงทำการสื่อสารวิสัยทัศน์และเป้าหมายใหม่ให้พนักงานทุกคนได้รับทราบ
ฟังดูแล้ว...ทุกอย่างน่าจะผ่านได้ด้วยดี แต่...
ผู้บริหารท่านหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยด้วย กลับรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าสี่เดือนผ่านไปเป้าหมายของทีมยังไม่ถึงไหน พอถามน้องๆ ในทีมว่าเข้าใจเป้าหมายหรือไม่ ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “เข้าใจ” แต่ทำไมยังเห็นทุกคนในทีมต่างเดินไปคนละทิศละทาง บางคนก็ดูเหมือนไม่มีแรงจูงใจในการทำงานเอาเสียเลย ....ทำอย่างไรดี?
ว่าไปแล้วปัญหาอย่างนี้ หลายครั้งเป็นผลมาจากการสื่อสารเป้าหมายที่ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพ
ผู้นำหลายคนมักสื่อสารให้พนักงานฟังด้วยการอธิบายว่า “เป้าหมายที่ต้องการคืออะไร” เท่านั้น
ปัญหาคือหลายอย่างที่จำเป็น...กลับขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนความเข้าใจในเป้าหมายที่มีร่วมกัน แนวทางในการไปให้ถึงเป้าหมาย รวมไปถึงความรู้สึก “ฮึกเหิม” ที่จะทำให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ด้วย
ดังนั้นการสื่อสารเป้าหมายที่ดี จึงควรมีองค์ประกอบครบถ้วนตามนี้
ข้อความที่สื่อต้องง่ายแต่มีความหมายลึกซึ้ง - เป้าหมายที่ถูกกำหนดขึ้นโดยมากมักมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่าแค่ “จุดหมายที่ต้องไปถึง” เป้าหมายส่วนมากมีความเชื่อมโยงกันกับสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจ กลยุทธ์ในระยะยาวขององค์กร ปัญหา โอกาสและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาและที่กำลังจะมาถึง ซึ่งความเชื่อมโยงต่างๆ เหล่านี้มักได้รับการสื่อสารอย่างดีในหมู่ผู้บริหารด้วยกัน แต่บ่อยครั้งกลับถูกละเลยเมื่อสื่อสารให้พนักงานทราบ ข้อมูลบางส่วนถูกตัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยเหตุผลง่ายๆ เช่น เป็นความลับ, ผู้บริหารมีเวลาน้อย, เป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นสำหรับพนักงาน เป็นต้น
การสื่อสารที่ดีจึงควรสื่อด้วยข้อความที่เข้าใจง่าย ด้วยภาษาสำหรับพนักงาน และที่สำคัญต้องบอกถึงความเชื่อมโยงของเป้าหมายที่กำลังจะไปให้ถึงกับเป้าหมายใหญ่ขององค์กรด้วย
ความเร้าใจของเป้าหมาย - การขึ้นไปบนเวทีแล้วสื่อสารกับพนักงานถึงเป้าหมายขององค์กร เป็นสิ่งที่ผู้บริหารหลายคนทำได้อย่างง่ายดาย แต่การพูดแล้วทำให้พนักงานเกิด “อารมณ์ร่วม” ไปกับเป้าหมายนั้นทำได้ยาก ผู้บริหารน้อยคนนักจะสามารถทำได้ดี
การสื่อสารเป้าหมายให้เร้าใจอาศัยองค์ประกอบสามสี่ประการด้วยกัน ได้แก่
แรงจูงใจ เกิดจากการเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการไปให้ถึงเป้าหมาย ประโยชน์ใกล้ตัวสำคัญกว่าประโยชน์ไกลตัว จงพูดถึงประโยชน์สำหรับพนักงานก่อนที่จะพูดถึงประโยชน์ขององค์กร จงพูดถึงประโยชน์ของลูกค้าก่อนที่จะพูดถึงประโยชน์ของชุมชน เป็นต้น
ความฮึกเหิม เริ่มต้นจากน้ำเสียง คำพูด และท่าทางการแสดงออกของผู้นำ หากผู้บริหารสามารถสื่อสารด้วยความมั่นใจ เสียงดังและหนักแน่น พลังนั้นก็จะถูกถ่ายทอดไปสู่ผู้ฟังด้วย ในทางกลับกัน หากผู้นำขาดทักษะในการพูดที่น่าสนใจ แม้เป้าหมายจะชัดเจนเพียงใดก็จะเป็นเป้าหมายที่ขาดพลัง
แนวทางในการบรรลุเป้าหมาย เป้าหมายที่ฟังดูน่าสนใจจะกลายเป็นเพียงความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ไปในทันที หากผู้นำไม่สามารถชี้ให้เห็นได้ว่าเป้าหมายดังกล่าวมีแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นได้จริง ยกตัวอย่างอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประกาศว่าสหรัฐอเมริกาจะส่งคนไปบนดวงจันทร์ เราต้องเข้าใจว่า ณ เวลานั้นเทคโนโลยีการส่งจรวดของอเมริกาไม่ต่างอะไรกับการจุดบั้งไฟบ้านเรา หากไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เป้าหมายเช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปในทันที
ตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จ บางครั้งการพูดถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อาจดูเหมือนไกลเกินฝัน หากผู้นำสามารถยกตัวอย่างความสำเร็จที่ใกล้เคียงกันให้เห็นได้ชัดเจน จะทำให้ความมุ่งมั่นที่จะบากบั่นฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จมีมากขึ้น
ลงทุนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย - ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกว่าคำพูด การที่องค์กรจะไปให้ถึงเป้าหมายได้นั้น ผู้บริหารต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงออกได้ดีผ่านการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาเพิ่มพูนทักษะเพื่อให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือและทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานให้เพียบพร้อม
อย่าลืมว่าการที่องค์กรจะสามารถดำรงอยู่ได้นั้น สิ่งสำคัญคือคนที่อยู่ภายในองค์กร องค์กรจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพนักงานภายในองค์กรด้วยเช่นกัน คนคนเดียวไม่สามารถทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ แต่ในขณะเดียวกันคนยิ่งมากการขับเคลื่อนให้ไปในทิศทางเดียวกันก็เป็นไปได้ยากยิ่งกว่า ดังนั้น เป้าหมายจึงเป็นเหมือนหลักให้ทุกคนในองค์กรได้ยึดเหนี่ยวให้สามารถเดินไปในทิศทางเดียวกันได้ การสื่อสารเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำไม่สามารถละเลยได้
โปรดอย่าแค่บอกพนักงานว่าองค์กรมีเป้าหมายอะไร แต่จงสื่อสารให้พนักงานเข้าใจและรู้สึกร่วมไปกับเป้าหมายนั้น
แล้วความสำเร็จ ก็คงอยู่ไม่ไกล...
