ไทยพาณิชย์ประกันชีวิตโชว์กำไรไตรมาสแรกกว่า 900 ล้านบาททำนิวไฮ หรือโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 53.52% เหตุทุกช่องกวาดยอดขายเกินคาด แถมได้กำไรหุ้นหลังปรับเพิ่มการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มั่นใจไตรมาส 2 ยังโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ถือว่าทำได้เกินความคาดหมาย โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 915.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 596.2 ล้านบาท ถึง 53.52% และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 13.77 บาท เพิ่มจาก 8.97 บาท จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นผลกำไรต่อไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 10,233.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ 8,050.3 ล้านบาท มาจากเบี้ยประกันรับสุทธิ 9,248.3 ล้านบาท เติบโต 26.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการลงทุนสุทธิ 978.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ 757 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 6.8 ล้านบาท
“ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้ผลประกอบการไตรมาสแรกของเราโดดเด่น และดีเกินคาดนั้น เป็นผลจากเบี้ยประกันรับสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเราได้รุกขยายตลาดในทุกช่องทางการขาย รวมทั้งเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้กว้างยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรับเปลี่ยนนโยบาย และพอร์ตการลงทุนใหม่ โดยได้ทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีรายได้ และกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 29.19% รวมทั้งยังสามารถบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างรัดกุม และมีประสิทธิภาพอีกด้วย” นายวิพลกล่าวเสริม
นายวิพลกล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้ฐานะการเงินของไทยพาณิชย์ประกันชีวิตมั่นคงยิ่งขึ้น โดยสินทรัพย์รวมขยับจาก 87,405.1 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 เป็น 96,241.6 ล้านบาท มีสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น 93,342 ล้านบาท คิดเป็น 96.98% ของสินทรัพย์รวม เงินสำรองประกันชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 80,374.5 ล้านบาท จาก 75,015.8 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 มีเงินกองทุน 23,012 ล้านบาท และมีกำไรสะสมทั้งสิ้น 8,413.6 ล้านบาท
โดยหลังจากนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจใหม่ให้เติบโตสูงกว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยของตลาด และปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสที่สองขยายตัวในทิศทางที่ดีเช่นกัน