xs
xsm
sm
md
lg

ความกังวลของนักลงทุนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


Wealth Manager Talk
คมศร ประกอบผล, AFPT(TM)
Wealth Manager
บลจ. ทิสโก้ จำกัด

นายฟรองซัวร์ ออลลองด์ หัวหน้าพรรคสังคมนิยม ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในรอบแรกที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนายออลลองค์ได้คะแนนเสียง 28.6% เฉือนชนะนายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันซึ่งได้คะแนนเสียง 27.1% เป็นไปตามผลโพลหลายๆ สำนักที่ประกาศออกมาก่อนหน้าการเลือกตั้ง

ระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะเป็นแบบเลือกตั้งสองรอบ โดยหากการเลือกตั้งรอบแรกไม่มีผู้สมัครที่ได้คะแนนเกินครึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงทั้งหมด การเลือกตั้งรอบสองจะถูกจัดขึ้น โดยนำเอาเฉพาะผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดสองอันดับแรกมาให้ประชาชนลงคะแนนอีกครั้งในการเลือกตั้งรอบสอง นั่นก็หมายความว่า ฟรองซัวร์ ออลลองด์ และ นิโกลาส์ ซาร์โกซี จะเข้าช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งรอบสองที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้

ผลการเลือกตั้งในรอบแรกได้สร้างความกังวลแก่นักลงทุน และทำให้เกิดการเทขายหุ้นและพันธบัตรของฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรป โดยในวันจันทร์หลังตลาดรับรู้ผลการเลือกตั้ง ดัชนีตลาดหุ้น CAC 40 ของฝรั่งเศส และดัชนี EURO STOXX 50 ปรับตัวลดลง 2.83% และ 2.87% ตามลำดับ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05% เป็น 3.13% เนื่องจากแนวนโยบายของนายออลลองด์ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดสวัสดิการภาครัฐและมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้จ่ายของรัฐบาล อาจเพิ่มภาระงบประมาณและทำให้หนี้สาธารณะของฝรั่งเศสที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 90% ของ GDP ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

โดยนโยบายหาเสียงที่สำคัญ ภายใต้แคมเปญ “Le changement, c’est maintenant” (Change is now) ของออลลองด์ ได้แก่ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับลดอายุเกษียณลงเหลือ 60 ปี จากเดิม 62 ปี และการเพิ่มการจ้างงานครู 60,000 ตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้น นายออลลองด์ยังประกาศจะรื้อฟื้นแผนการปรับลดการขาดดุลงบประมาณ (EU Fiscal Compact) ที่ได้มีข้อตกลงร่วมกับสหภาพยุโรปไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังเป็นการสั่นคลอนความเชื่อมั่นของตลาดต่อแผนการปรับลดการขาดดุลงบประมาณของกลุ่มประเทศยุโรปอีกด้วย

ประเด็นการเลือกตั้งรอบสองของฝรั่งเศสที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ จะยังคงเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ ตามผลโพลล่าสุดจากบริษัท CSA นายออลลองด์ยังคงมีคะแนนนำนายซาร์โกซีอยู่ 56% ต่อ 44% อย่างไรก็ดี TISCO Wealth เชื่อว่าแม้นายออลลองด์จะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป แต่การนำนโยบายที่หาเสียงมาใช้จริง โดยเฉพาะการรื้อฟื้นการเจรจาแผนการปรับลดการขาดดุลของยุโรปจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากนโยบายดังกล่าวจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากนักลงทุนผ่านการเทขายพันธบัตรและหุ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของภาครัฐและเอกชนปรับตัวสูงขึ้น และจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจฝรั่งเศสเองในที่สุด เรามองว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจากประเด็นนี้จะเป็นเพียงการปรับตัวลงระยะสั้น และแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสที่หุ้นปรับตัวลงในการเข้าซื้อหุ้นไทย และหุ้นเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น (Asia Pacific ex Japan) ที่พื้นฐานดี และได้รับผลกระทบน้อยจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น