"รายได้ ณ ปัจจุบัน ยังคงต้องเก็บไว้ในบัญชีก่อน เพราะด้วยความที่เรายังเด็กเกินไปก็ต้องพยายามเก็บออมในรูปแบบออมทรัพย์ให้ได้มากที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่า เหตุฉุกเฉินไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นของใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเราก็ต้องมีการตัดใจบ้าง เพื่อให้อนาคตเรามีชีวิตที่รอบครอบและไม่ประมาท"
ในช่วงอายุ 15-25 ปีนี้ ถือว่ายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่จะยังขอเงินพ่อกับแม่ใช้อยู่ เพราะว่าในช่วงวัยนี้ เป็นวัยที่กำลังศึกษาหรือวัยเรียนอยู่ จึงไม่สามารถทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ ดังนั้นวิธีการออมเงินแบบง่ายที่สามารถทำได้ทั่ว ๆ ไป นั่นคือการเก็บสะสมเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะเงินส่วนนี้จะเป็นเงินที่ได้จากเงินค่าขนมที่พ่อกับแม่ให้ ซึ่งจะได้รับเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งเราก็สามารถนำเงินตรงนี้มาเก็บสะสมไว้ได้ อาจจะไม่มากนัก แต่ถ้าค่อย ๆ เก็บไปนาน ๆ เงินก้อนนี้ก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เช่นกัน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะยังไม่มีรายได้ แต่ก็สามารถที่จะเริ่มเก็บออมเงินได้ สิ่งนี้จะเป็นการปลูกฝังให้รู้จักการเก็บออมเงิน จะเห็นได้ว่าช่วงนี้จำนวนเงินที่เก็บออมนั้น อาจจะน้อยนิด แต่นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะ อีกหน่อยในภายภาคหน้าถ้าเรามีงานทำ และมีรายได้เป็นของตนเอง ก็จะสามารถเก็บออมเงินได้มากขึ้นไปกว่านี้ด้วย
เช่นเดียวกัน "น้องเกรซ - ชวัลลักษณ์ อังเกอร์ โมกศิริ"ผู้ประกวดหมายเลข 4 ที่คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2มาครองหมาด ๆ จากเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2012 ซึ่งเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นแต่ก็ไม่ได้ที่จะละเลยในการเก็บออมเงิน เพราะเธอมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงที่มีเหตุฉุกเฉิน
"เกรซ" ได้บอกกับเราว่า จากการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2012 สามารถตำแหน่งรองอันดับ 2 มาได้ ซึ่งได้เงินรางวัลมาทั้งสิ้น 200,000 บาท โดยเงินจำนวนดังกล่าว จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนเพื่อศึกษา และอีกส่วนหนึ่งจะให้คุณแม่ไว้ใช้จ่ายต่าง ๆ และถ้ามีรายได้เข้ามาอีกคงจะเก็บสะสมไว้ก่อน ๆ ที่จะนำไปลงทุนอะไรต่อไป เพราะเงินทองเป็นสิ่งที่หายาก
ครอบครัวของ "เกรซ" จะคอยปลูกฝั่งอยู่ตลอดเวลาให้รู้จักประหยัด งดใช้จ่ายของใช้ที่ฟุ่มเฟือย แต่ด้วยความเด็กในบ้างครั้งเราก็มีบ้างที่อยากจะได้ แต่พอโตขึ้นมาหาเงินได้ด้วยตัวเอง เลยทำให้รู้คุณค่าของเงินมากยิ่งขึ้น เวลาจะใช้จ่ายอะไรก็ตามต้องคิดแล้วคิดอีกหลายรอบเลยทีเดียว” เกรซ บอก
รายได้แรกที่หาได้ด้วยตนเอง "เกรซ" เริ่มหาได้ตอนอายุ 16 ปีจากการเข้าไปเป็นนางแบบโฆษณา ของสินค้ายี่ห้อหนึ่ง ตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าได้มาเท่าไหร่ แต่รู้ว่าได้มากก็เก็บไว้อย่างเดียวไม่ได้นำไปซื้อของอะไร แต่จะเก็บไว้ในยามฉุกเฉินมากกว่า
สำหรับรายได้ ณ ปัจจุบัน ยังคงต้องเก็บไว้ในบัญชีก่อน เพราะด้วยความที่เรายังเด็กเกินไปก็ต้องพยายามเก็บออมในรูปแบบออมทรัพย์ให้ได้มากที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่า เหตุฉุกเฉินไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นของใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเราก็ต้องมีการตัดใจบ้าง เพื่อให้อนาคตเรามีชีวิตที่รอบครอบและไม่ประมาทนั่นเอง
"ประโยชน์ของการออมเงินมีมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องที่ดีมากกว่า เพราะเมื่อเรามีเงินเก็บเวลาที่เราเดือดก็จะไม่ต้องไปรบกวนคนอื่น คุณแม่จะคอยเตือนเสมอว่า ต้องให้มีเงินในบัญชีตลอดเพราะมันจะทำให้เราไม่ประมาทเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน"
สำหรับอนาคต "เกรซ" อยากเป็นผู้จัดการโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยเราเป็นคนบริหารเอง เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบจัดงานอีเว้นท์ ชอบมีกิจกรรมสังสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งคิดว่าจะเป็นงานที่เราสามารถทำได้ดี แต่ในส่วนของงานวงการบันเทิงก็ยังอยากที่จะมีงานหลายด้าน ทั้งงานเดินแบบ เล่นละคร ต่าง ๆ อีกมากมาย ถึงผู้ใหญ่ให้โอกาสในการทำงานต่อไป
โดยล่าสุด หลังจากได้ตำแหน่ง รองอันดับ 2 จากการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2012 แล้ว "เกรซ" เองกำลังเตรียมตัวที่จะไปประกวดต่อที่เอเซียแปซิฟิค ในช่วงเดือนมิถุนายน นี้ ซึ่งในขณะนี้ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมตัว
ในส่วนของวันว่างจากการเรียนและการทำงาน "เกรซ" มักจะชอบพักผ่อนอยู่กับบ้าน หากิจกรรมอะไรที่มีความสุขทำกับครอบครัว เช่น อาจจะทำอาหารร่วมกัน เป็นต้น
สุดท้าย "เกรซ" อยากให้ทุกคนรู้จักประหยัดและอดออมให้ได้มากที่สุด ใช้สิ่งของที่จำเป็นก็พอ ของแบรนเนมด์บ้างครั้งก็ต้องงดบ้างถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะถ้าเรามองคนที่ด้อยกว่าเราจะรู้ว่าเขาไม่ได้โชคดีเหมือนยังเรา ที่พอมีพอกินบ้าง บางคนอาจจะลำบากกว่าเราด้วยซ้ำดังนั้นเราต้องรู้จักคุณค่าของเงินที่คิดจะเสียไปให้มาก ๆ
ชื่อ - นามสกุล ชวัลลักษณ์ อังเกอร์ โมกศิริ (เกรซ)
วันเดือนปีเกิด 1 พฤศจิกายน 2536
การศึกษา International School Bangkok
ผลงานปัจจุบัน ตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2012