กบข. ห่วงวิกฤตหนี้สหรัฐฯและกลุ่มยุโรป ฉุดผลตอบแทน แนะสมาชิกเกษียณอายุคงเงินต่อ เพื่อรอจังหวะตลาดฟื้นกลับ ย้ำ กลยุทธ์ลงทุนเน้นติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับพอร์ตหนีความผันผวน
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนที่ผันผวนในปัจจุบันจากปัญหาวิกฤตหนี้สหรัฐฯและกลุ่มยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของ กบข.ในปีนี้ไม่ดีเท่าปีก่อน ดังนั้น สมาชิก กบข.ที่เกษียณอายุในปีนี้ควรออมต่อกับ กบข. เพื่อรอจังหวะนำเงินก้อนออกจาก กบข.ในช่วงที่ NAV ปรับตัวดีขึ้นจะเป็นประโยชน์แก่สมาชิก กบข.มากกว่า เหมือนเช่นปี 2551 ที่ NAV ของ กบข.ปรับตัวลดลงเหลือ 14.05 บาท/หน่วย เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ แต่ในปี 2552 หลังจากที่สถานการณ์วิกฤติการเงินสหรัฐฯเริ่มคลี่คลาย NAV ของ กบข.ก็ปรับตัวดีขึ้นเป็น 15.36 บาท/หน่วย และเพิ่มขึ้นเป็น 16.67 บาท/หน่วยในปี 2553
ทั้งนี้ โครงการออมต่อ กบข.จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 เพื่อเป็นทางเลือกในการบริหารเงินออมสำหรับสมาชิก กบข.ที่พ้นสมาชิกภาพ โดยสมาชิกสามารถเลือกออมต่อกับ กบข. ได้ 3 วิธี ดังนี้ 1 ฝากเงินให้กองทุนบริหารต่อทั้งจำนวน 2 ขอทยอยรับเงิน เลือกรับเป็นรายงวด 1 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี และ 3 ขอรับเงินบางส่วน
นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและสหรัฐฯที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ที่ผ่านมา กบข.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตการลงทุนโดยลดสัดส่วนการลงทุนหุ้นในและนอกประเทศ และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจาก 5% เป็น 10% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงได้ระดับหนึ่ง และสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวก แม้ไม่สูงเท่าปีก่อนก็ตาม ซึ่งอยากแนะนำสมาชิก กบข.ที่จะเกษียณในเดือนตุลาคมนี้หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ควรออมต่อเพื่อรอจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี สมาชิกที่เกษียณอายุราชการและไม่ต้องการฝากเงินออมให้ กบข.บริหารต่อ สามารถนำเงินก้อนของจาก กบข.ได้ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่ กบข.ตรวจเอกสารถูกต้องครบถ้วน โดยสมาชิกสามารถเริ่มยื่นเอกสารขอรับเงินคืนแก่หน่วยงานราชการต้นสังกัดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป อนึ่ง ปัจจุบันมีสมาชิก กบข.ที่เกษียณเข้าโครงการออมต่อจำนวน 620 ราย ในจำนวนนี้กว่า 70% เลือกฝากเงินออมให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน ทั้งนี้ สมาชิก กบข.ที่สนใจโครงการออมต่อโทร 1179 กด 6
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนที่ผันผวนในปัจจุบันจากปัญหาวิกฤตหนี้สหรัฐฯและกลุ่มยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของ กบข.ในปีนี้ไม่ดีเท่าปีก่อน ดังนั้น สมาชิก กบข.ที่เกษียณอายุในปีนี้ควรออมต่อกับ กบข. เพื่อรอจังหวะนำเงินก้อนออกจาก กบข.ในช่วงที่ NAV ปรับตัวดีขึ้นจะเป็นประโยชน์แก่สมาชิก กบข.มากกว่า เหมือนเช่นปี 2551 ที่ NAV ของ กบข.ปรับตัวลดลงเหลือ 14.05 บาท/หน่วย เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ แต่ในปี 2552 หลังจากที่สถานการณ์วิกฤติการเงินสหรัฐฯเริ่มคลี่คลาย NAV ของ กบข.ก็ปรับตัวดีขึ้นเป็น 15.36 บาท/หน่วย และเพิ่มขึ้นเป็น 16.67 บาท/หน่วยในปี 2553
ทั้งนี้ โครงการออมต่อ กบข.จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 เพื่อเป็นทางเลือกในการบริหารเงินออมสำหรับสมาชิก กบข.ที่พ้นสมาชิกภาพ โดยสมาชิกสามารถเลือกออมต่อกับ กบข. ได้ 3 วิธี ดังนี้ 1 ฝากเงินให้กองทุนบริหารต่อทั้งจำนวน 2 ขอทยอยรับเงิน เลือกรับเป็นรายงวด 1 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี และ 3 ขอรับเงินบางส่วน
นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและสหรัฐฯที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ที่ผ่านมา กบข.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตการลงทุนโดยลดสัดส่วนการลงทุนหุ้นในและนอกประเทศ และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจาก 5% เป็น 10% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงได้ระดับหนึ่ง และสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวก แม้ไม่สูงเท่าปีก่อนก็ตาม ซึ่งอยากแนะนำสมาชิก กบข.ที่จะเกษียณในเดือนตุลาคมนี้หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ควรออมต่อเพื่อรอจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี สมาชิกที่เกษียณอายุราชการและไม่ต้องการฝากเงินออมให้ กบข.บริหารต่อ สามารถนำเงินก้อนของจาก กบข.ได้ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่ กบข.ตรวจเอกสารถูกต้องครบถ้วน โดยสมาชิกสามารถเริ่มยื่นเอกสารขอรับเงินคืนแก่หน่วยงานราชการต้นสังกัดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป อนึ่ง ปัจจุบันมีสมาชิก กบข.ที่เกษียณเข้าโครงการออมต่อจำนวน 620 ราย ในจำนวนนี้กว่า 70% เลือกฝากเงินออมให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน ทั้งนี้ สมาชิก กบข.ที่สนใจโครงการออมต่อโทร 1179 กด 6
