บลจ. ยูโอบี แนะ ลงทุนคอมมอดิตี้ สินค้าเกษตร - พลังงาน ในช่วงเศรษฐกิจกำลังปรับตัวดี พร้อมถือทองคำ ป้องกันเงินเฟ้อ คาด จนถึงช่วงสิ้นปีนี้ทองคำอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญฯ ต่อออนซ์
นายเอกรัตน์ อภิวัฒนพร ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี ไทย จำกัด กล่าวถึง การลงทุนในคอมมอดิตี้ว่า ในช่วงเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวนั้น ความต้องการในสินค้าคอมมอดิตี้ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร พลังงาน เนื่องจาก ความต้องการที่สูงขึ้นแต่ปริมาณสินค้านั้นมีจำกัด ดังนั้นราคาจึงปรับขึ้นไป ขณะเดียวกัน สินค้าคอมมอดิตี้อย่างทองคำ ยังเป็นที่ต้องการ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นทองคำจึงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ และทางยูโอบี คาดการณ์ราคาทองคำว่า จนถึงช่วงสิ้นปีนี้ราคาทองคำน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญฯ ต่อออนซ์
โดย บลจ.ยูโอบี มีกองทุนที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท คอมโมดิตี้ (UOBSC) และกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ แอนน์ ไมน์นิ่ง อิควิตี้ (UOBSGM) ซึ่งลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ ทองคำ
สำหรับ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท คอมโมดิตี้ (UOBSC) นั้นเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนประเภท R1C ของกองทุน DB Platinum Commodity Euro ซึ่งเป็นของบริษัทจัดการ DB Platinum Advisors ประเทศลักเซมเบิร์ก จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 มีขนาดกองทุน 285.68 ล้านบาท (ณ 29 เมษายน 2554)
กองทุนลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ 4 ประเภท 12 ชนิดได้แก่ กลุ่มพลังงาน ได้แก่ น้ำมันดิบ และก็าซธรรมชาติ กลุ่มโลหะมีค่า ได้แก่ ทองคำ และโลหะเงิน กลุ่มสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และกลุ่ม โลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรม ได้แก่ อะลูมิเนียม ทองแดง สังกะสี นิกเกิล และตะกั่ว ซึ่งสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินค้า 12 ได้ตามสถานการณ์ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับการลงทุนในตัวที่ราคาขึ้นสูงมาก และจะเข้าไปลงทุนในตัวที่กำลังจะปรับตัวขึ้น ซึ่งจะลงทุนในแต่ละตัวไม่เกิน 35%
ขณะที่กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ แอนน์ ไมน์นิ่ง อิควิตี้ (UOBSGM) มีวัตถุประสงค์สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงมากกว่าลงทุนในทองคำ เนื่องจากเน้นลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ ทองคำ ซึ่งเปิดโอกาสในการทำกำไรมากกว่าการลงทุนในทองคำเพียงอย่างเดียว จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ขนาดกองทุน 53.92 ล้านบาท (ณ 29 เมษายน 2554)
นายเอกรัตน์ อภิวัฒนพร ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี ไทย จำกัด กล่าวถึง การลงทุนในคอมมอดิตี้ว่า ในช่วงเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวนั้น ความต้องการในสินค้าคอมมอดิตี้ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร พลังงาน เนื่องจาก ความต้องการที่สูงขึ้นแต่ปริมาณสินค้านั้นมีจำกัด ดังนั้นราคาจึงปรับขึ้นไป ขณะเดียวกัน สินค้าคอมมอดิตี้อย่างทองคำ ยังเป็นที่ต้องการ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นทองคำจึงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ และทางยูโอบี คาดการณ์ราคาทองคำว่า จนถึงช่วงสิ้นปีนี้ราคาทองคำน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญฯ ต่อออนซ์
โดย บลจ.ยูโอบี มีกองทุนที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท คอมโมดิตี้ (UOBSC) และกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ แอนน์ ไมน์นิ่ง อิควิตี้ (UOBSGM) ซึ่งลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ ทองคำ
สำหรับ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท คอมโมดิตี้ (UOBSC) นั้นเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนประเภท R1C ของกองทุน DB Platinum Commodity Euro ซึ่งเป็นของบริษัทจัดการ DB Platinum Advisors ประเทศลักเซมเบิร์ก จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 มีขนาดกองทุน 285.68 ล้านบาท (ณ 29 เมษายน 2554)
กองทุนลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ 4 ประเภท 12 ชนิดได้แก่ กลุ่มพลังงาน ได้แก่ น้ำมันดิบ และก็าซธรรมชาติ กลุ่มโลหะมีค่า ได้แก่ ทองคำ และโลหะเงิน กลุ่มสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และกลุ่ม โลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรม ได้แก่ อะลูมิเนียม ทองแดง สังกะสี นิกเกิล และตะกั่ว ซึ่งสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินค้า 12 ได้ตามสถานการณ์ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับการลงทุนในตัวที่ราคาขึ้นสูงมาก และจะเข้าไปลงทุนในตัวที่กำลังจะปรับตัวขึ้น ซึ่งจะลงทุนในแต่ละตัวไม่เกิน 35%
ขณะที่กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ แอนน์ ไมน์นิ่ง อิควิตี้ (UOBSGM) มีวัตถุประสงค์สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงมากกว่าลงทุนในทองคำ เนื่องจากเน้นลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ ทองคำ ซึ่งเปิดโอกาสในการทำกำไรมากกว่าการลงทุนในทองคำเพียงอย่างเดียว จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ขนาดกองทุน 53.92 ล้านบาท (ณ 29 เมษายน 2554)